นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า จีนดำเนินการรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการผ่อนปรนนโยบายการเงินซึ่งขณะนี้เริ่มมีผลบังคับใช้แล้ว พร้อมเผยธนาคารกลางจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนต่อไปในปีนี้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า อาจมีการลดดอกเบี้ยลงอีก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีนได้เปลี่ยนจากนโยบายการเงินแบบรัดกุมในช่วงต้นปี 2551 มาเป็นนโยบายการเงินแบบผ่อนปรนมากขึ้น เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกได้แพร่ขยายลุกลามไปยังทุกภูมิภาคของโลกในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว โดยจีนได้ตัดสินใจลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีครึ่งเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว และลดลงอีกสี่ครั้งนับจากนั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมและการลงทุนท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนเผยในระหว่างการแถลงข่าวในช่วงที่มีการจัดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติที่กรุงปักกิ่งว่า มีการปล่อยกู้ใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นเกินความคาดหมายในเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า ธนาคารกลางจีนจะยังคงรักษาอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้มีเสถียรภาพต่อไป
โดยวานนี้ นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ หรือ รัฐสภาจีน ว่า รัฐบาลจะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 8% ให้ได้ในปีนี้ แม้ว่าจีนจะได้รับผลกระทบจากการวิกฤตการเงินโลกก็ตาม ทั้งนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนในไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 ชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 6.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเจ็ดปี และนักวิเคราะห์คาดว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2552 นี้จะชะลอตัวลงอีกอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 6%