กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นแตะ 8.1% ในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 25 ปี ขณะที่ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) ร่วงลง 651,000 ตำแหน่ง
อัตราว่างงานในเดือนก.พ.2552 ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่เคยพุ่งสูงถึง 8.3% ในเดือนธ.ค.2526 โดยปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระดับ 7.6% ในเดือนม.ค., 7.2% ในเดือนธ.ค. และ 6.8 ในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าระดับ 7.9% ที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้
สำหรับตัวเลขจ้างงานที่ลดลงในเดือนที่แล้วนั้น ใกล้กับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 648,000 ตำแหน่ง และเทียบกับเดือนธ.ค.ที่ร่วงลง 681,000 ตำแหน่ง และเทียบกับ 655,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนธ.ค. 2550 ตัวเลขจ้างงานในประเทศก็ลดลงมาแล้ว 4.4 ล้านตำแหน่ง ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงสี่เดือนหลังสุด
"ในเดือนก.พ. มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก และกระจายไปในเกือบทั่วทุกภาคอุตสาหกรรม" กระทรวงแรงงานระบุ
โดยภาคการผลิตลดไป 168,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคการก่อสร้างร่วง 104,000 ตำแหน่ง ภาคบริการทรุดลง 375,000 ตำแหน่ง และภาคค้าปลีกลดลง 40,000 ตำแหน่ง
ภาคบริการธุรกิจและวิชาชีพร่วงลง 180,000 ตำแหน่ง ส่วนบริษัทการเงินลดการจ้างงาน 44,000 ตำแหน่ง อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการโรงแรมลดลง 33,000 ตำแหน่ง
มีเพียงภาครัฐ การศึกษา และบริการสุขภาพที่มีการจ้างงานเพิ่มในเดือนที่แล้ว
การอ่อนตัวลงในตลาดแรงงานเกิดขึ้นในขณะที่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น โดยในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 6.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปี ยิ่งไปกว่านั้น นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในช่วงหกเดือนแรกของปีนี้อาจจะยังคงขยายตัวในระดับติดลบ