นักวิเคราะห์ชี้"เมิร์ค"ควบรวมกิจการเชอริ่ง-พลาวจุดกระแสควบกิจการในวงการบริษัทยา

ข่าวต่างประเทศ Tuesday March 10, 2009 12:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เดวิด มอสโควิทซ์ นักวิเคราะห์ของคาริส แอนด์ โค กล่าวถึงการเทคโอเวอร์เชอริ่ง พลาวของเมิร์ค ซึ่งเป็นบริษัทยายักษ์ใหญ่ของสหรัฐนั้น เป็นปรากฎการณ์ที่สร้างแรงกดดันให้กับบริษัทยาที่เร่งพัฒนายาอย่างหนักเช่น ซาโนฟี-เอเวนทิส เอสเอ และแอสตราเซเนก้า ให้พิจารณาเรื่องการควบรวมกิจการของตนเอง

ทั้งนี้ ข้อตกลงของเมิร์ค ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ไฟเซอร์เตรียมซื้อกิจการไวเอทมูลค่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์นั้น ตลอดจนโรช โฮลดิ้ง เอจีน ที่เสนอซื้อเจเนเนเทค อิงค์ มูลค่า 4.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการทำข้อตกลงของบริษัทยาชั้นนำเหล่านี้ยิ่งกระพทอให้บริษัทยาเจ้าอื่นๆเป็นห่วงว่าตนเองอาจจะพลาดโอกาสในการควบรวมกิจการก็เป็นได้

เมิร์ค ซึ่งมีเงินลงทุนระยะสั้นและเงินสดประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์นั้น ต้องการซื้อกิจการบริษัทยาอื่นๆ เพื่อหาผลิตภัณฑ์ยาเข้ามาทดแทนผลิตภัณฑ์ยาเดิมของบริษัทที่ใกล้จะหมดอายุการคุ้มครองตามสิทธิบัตรที่ได้รับมา การซื้อกิจการของเชอริ่ง พลาว นั้น จะช่วยให้เมิร์ตมีช่องทางการทดลองเพื่อพัฒนายามากขึ้น รวมทั้งการครอบครองผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอายุสิทธิบัตรที่หมดลง

นิค เทอร์เนอร์ นักวิเคราะห์ของมราโบด์ กล่าวว่า บริษัทส่วนใหญ่ตอนนี้มีราคาค่อนข้างถูก ใครที่มีเงินสดอยู่ในมือก็สามารถเข้ามาซื้อได้ และนี่อาจจะจุดกระแสการควบรวมและซื้อกิจการ

ซาโนฟีเองอาจจะเล็งซื้อกิจการบริสทอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ซึ่งขายยา Plavix และ Avapro ซึ่งเป็นยากรักษาโรคเครียดในสหรัฐ ส่วนผู้สนใจบริสทอล-ไมเยอร์ส รายอื่นๆก็มีทั้งแอสตราเซเนก้า จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ