กลุ่มรัฐมนตรีคลังของยุโรปได้ออกมาปฏิเสธเสียงเรียกร้องของสหรัฐที่ต้องการให้ยุโรปลงมือแก้วิกฤตเศรษฐกิจมากกว่านี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจุดยืนที่แตกต่างกันนี้อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นได้ในการประชุม G-20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนในสัปดาห์นี้
ฌอง-คล็อด จังค์เกอร์ รัฐมนตรีคลังของลักเซมเบิร์ก กล่าวภายหลังเป็นผู้นำการประชุมรมว.คลังในแถบยุโรปที่กรุงบรัสเซลส์ว่า ข้อเรียกร้องของสหรัฐที่ยืนกรานให้ยุโรปใช้มาตรการด้านงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบของวิกฤตนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เราคิดและต้องการจะทำ เราอยากดูว่าผลพวงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะออกมาในรูปแบบใดมากกว่า
บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐมนตรีคลังในกลุ่มประเทศสมาชิกอียู 27 ประเทศจะร่วมประชุมกันในวันนี้ ก่อนที่จะมีการประชุมรมว.คลัง G-20 ที่มีเป้าหมายเพื่อหารือวิธีการรับมือกับวิกฤตการเงิน ซึ่งในการประชุมนัดใหญ่คาดว่า จะได้เห็นว่าสหรัฐ จีน ออกแรงผลักดันให้นานาประเทศใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อยุติภาวะถดถอยของเศรษฐกิจทั่วโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า สหรัฐ ซาอุดิอาระเบีย จีน สเปน และออสเตรเลีย เท่านั้นที่มีแนวโน้มว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายของไอเอ็มเอฟในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีมูลค่าเทียบเท่า 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีนี้ โดยขณะนี้เยอรมนีได้ใช้งบเทียบเท่า 1.5% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าของฝรั่งเศส 2 เท่า