ผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียขยับลดลงเล็กน้อยในเดือนนี้หลังจากดิ่งลงอย่างหนักในเดือนม.ค.และก.พ. เนื่องจากภาคครัวเรือนเริ่มมีมุมมองในแง่บวกเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเวสแพค แบงกิ้ง คอร์ป และสถาบันเมลเบิร์นซึ่งที่ได้จากการสอบถามผู้บริโภค 1,200 รายในระหว่างวันที่ 2-8 มี.ค.นั้นปรับตัวลดลง 0.2% มาอยู่ที่ระดับ 85.8 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 จุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551 ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคมีมุมมองในแง่ลบมากกว่าในแง่บวก
ผลสำรวจที่มีการเปิดเผยในวันนี้เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ช่วยตอกย้ำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 45 ปี ขณะที่รัฐบาลมีแผนที่จะใช้เงิน 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเพิ่มการใช้จ่ายซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ดัชนีชี้วัดความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้านแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 5 ปีข้างหน้าถีบตัวขึ้น 12.5%
บิล อีวานส์ นักวิเคราะห์จากเวสแพคในซิดนีย์กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า "ผลสำรวจในเดือนมี.ค.นี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ช่วยเสริมสร้างรากฐานความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในระยะยาว และข้อมูลในวันนี้ออกมาดีเกินคาด หลังจากที่ผ่านมาผู้บริโภคเจอแต่ข่าวร้ายๆมาโดยตลอดท่ามกลางภาวะเศรษฐกิตโลกที่เลวร้ายลง"
ทั้งนี้ ณ เวลา 10:44 น. ตามเวลาท้องถิ่น เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 64.75 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 64.66 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่ส่วนต่างผลตอบแทนพันบัตรรัฐบาลระยะ 2 ปีเพิ่มขึ้น 0.01% แตะที่ 2.70%