ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพียง 6.5% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ 7.5% เนื่องจากยอดส่งออกทรุดตัวลงอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกมั่นใจว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถขยายตัวต่อไปได้แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะที่หดตัวลง
รายงานของธนาคารโลกระบุว่า "แม้ยอดส่งออกของจีนที่ทรุดตัวลงได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการจ้างงาน แต่เศรษฐกิจจีนยังสามารถขยายตัวได้ดีกว่าประเทศยักษ์ใหญ่หลายประเทศ เนื่องจากจีนใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพและมีระบบการธนาคารที่แข็งแกร่ง ซึ่งข้อได้เปรียบเช่นนี้ทำให้จีนแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินโลก"
"อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอุตสาหกรรมส่งออกของจีนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจโลกหดตัว จึงทำให้ภาวะการลงทุนและการจ้างงานของจีนสั่นสะเทือนไปด้วย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งหากสถานการณ์ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ ก็อาจทำให้การลงทุนและการจ้างงานของจีนอ่อนแอลง ธนาคารโลกจึงตัดสินใจปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนลงเหลือ 6.5% ในปีนี้" ธนาคารโลกกล่าวนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลจะผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวตามเป้าหมายที่ 8% แม้ยอดส่งออกเดือนก.พ.ดิ่งลง 25.7% ก็ตาม นอกจากนี้ รัฐบาลพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินในมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.86 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เดวิด ดอลลาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการจีนของธนาคารโลกกล่าวว่า "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนมีประสิทธิภาพมากเพราะจีนมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในระดับสูง จึงมีกำลังที่จะจัดสรรงบประมาณการใช้จ่าย การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของจีนทำให้เรามั่นใจว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลพวงในด้านบวกไปด้วย"
ดอลลาร์กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนมีเป้าหมายที่จะลดการพึ่งพาด้านการค้าระหว่างประเทศ แต่หันไปพึ่งพาการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ ผ่านการทุ่มงบประมาณการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างทางหลวงและสาธารณูปโภคที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกที่ซบเซาลงของจีนสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลยังไม่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนได้ดีนัก
นอกจากนี้ ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกและจะเพิ่มมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวลงในเดือนก.พ. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด แต่ธนาคารโลกกล่าวว่า "ภาวะเงินฝืดถือเป็นความเสี่ยงในหลักการ ซึ่งเราเชื่อว่าจีนรับมือได้แน่นอน" สำนักข่าวเอพีรายงาน