นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกของไทยในเดือน ก.พ.52 มีมูลค่า 11,736 ล้านดอลลาร์ ลดลง 11.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 8,159 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 40.3% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 3,577 ล้านดอลลาร์
ขณะที่การส่งออกช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ติดลบ 19.2% เป็นมูลค่า 22,231 ล้านดอลลลาร์ ส่วนการนำเข้าติดลบ 38.9% เป็นมูลค่า 17,277 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 2 เดือนแรกจำนวน 4,954 ล้านดอลลาร์
นายศิริพล กล่าวอีกว่า การส่งออก ก.พ.52 ยังคงลดลงทุกหมวด โดยสินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตรลดลง 10.5% สินค้าอุตสาหกรรมลดลง 6.7% และสินค้าอื่นๆ ลดลง 31.1% ส่วนสินค้าส่งออกที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ข้าว กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป และน้ำตาล ส่วนสินค้าส่งออกที่ลดลง ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง อาหารทะเลกระป๋อง โดยสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ อัญมณีเพิ่มขึ้นถึง 402.7% ส่วนสินค้าอื่นๆ พบว่ามีการนำเข้าลดลงทุกกลุ่ม โดยน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง 56% เป็นผลจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงและความต้องการใช้น้ำมันลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สินค้าทุนลดลง 16% วัตถุดิบลดลง 48%
ด้านตลาดส่งออก พบว่า ตลาดหลักมีการส่งออกลดลง 29.8% ขณะที่ตลาดใหม่กลับมาส่งออกเพิ่มขึ้น 9.3% โดยตลาดใหม่ที่ส่งออกเพิ่มขึ้นมาก ได้แก่ ฮ่องกงเพิ่มขึ้น 274% สวิตเซอร์แลนด์ส่งออกเพิ่มขึ้น 1,083% เป็นการเพิ่มขึ้นของการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นถึง 5,106%
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวอีกว่า ตัวเลขการส่งออกทั้งปี 52 ขณะนี้ยังคงใช้เป้าหมายการขยายตัวเดิมที่ 0-3% และกระทรวงฯจะขอทบทวนตัวเลขการส่งออกปีนี้อีกครั้งหลังจากผ่านช่วง Q1/52 ก่อน เนื่องจากสถานการณ์การส่งออกปัจจุบันยังไม่นิ่ง
"ตัวเลขส่งออกทั้งปี เราขอทบทวนอีกรอบ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่นิ่ง รอให้ผ่าน Q1/52 ไปก่อน...เราจะพยายามทำให้ส่งออกปีนี้ติดลบน้อยที่สุด ซึ่งถ้าเป็นบวกได้ก็จะดี" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ด้านนายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ระบุว่า การส่งออก ก.พ.52 ที่เริ่มติดลบน้อยลงจาก ม.ค.52 ถือเป็นสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่า การส่งออกเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเริ่มกลับเข้ามา แม้ยังมีปริมาณสั่งซื้อไม่มากนัก
"ตอนนี้สัญญาณเริ่มดีขึ้น ส่งออกเริ่มกลับมาแล้ว จากที่คุยกับผู้ส่งออกพบว่าสต็อกสินค้าเริ่มลดลง ออเดอร์เริ่มกลับมา แต่ก็ยังไม่ใช่ปริมาณที่มากนัก ขณะที่คนซื้ออยากได้เครดิตมากขึ้น" นายราเชนทร์ กล่าวอนึ่ง สถาบัน EIU คาดการณ์การส่งออกของหลายประเทศทั่วโลกในปีนี้ ว่า สหรัฐส่งออกจะติดลบ 16.1% นำเข้าติดลบ 19.8%, อังกฤษส่งออกติดลบ 27.5% นำเข้าติดลบ 24.7%, จีนส่งออกติดลบ 10% นำเข้าติดลบ 7.9%, ญี่ปุ่นส่งออกติดลบ 14.8% นำเข้าติดลบ 23.9% ขณะที่ไทยคาดว่าการส่งออกจะติดลบ 15.5% และนำเข้าติดลบ 17.8%