เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะปรับตัวลดลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประกาศแผนซื้อพันธบัตรรัฐบาล
โดยเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรก่อนที่คณะทำงานของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะเปลี่ยนแปลงข้อบังคับด้านการกำกับดูแลทางเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงมิให้ระบบธนาคารของสหรัฐเกิดวิกฤตการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลกระทบให้นักลงทุนเลี่ยงการลงทุนจากสินทรัพย์ในรูปสกุลดอลลาร์
ด้านเงินยูโรแข็งค่าต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 เมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งทะยานแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ท่ามกลางมุมมองในแง่บวกที่ว่าความปั่นป่วนวุ่นวายทางการเงินอาจสิ้นสุดลง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:35 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3633 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.3582 ยูโร/ดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนเงินดอลลาร์เทรดที่ระดับ 96 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 95.94 เยน/ดอลลาร์ ด้านเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 131.12 เยน/ยูโร จากระดับ 130.29 เยน/ยูโร
ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะ 10 ปี ร่วงลง 0.26% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ทากาชิ มัตซึมูระ นักวิเคราะห์จาก Mizuho Research Institute กล่าวว่า "แถลงการณ์ซื้อพันธบัตรของเฟดที่มีขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้จุดกระแสความวิตกกังวลต่อปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ และทำให้ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดความน่าดึงดูดใจลงเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งมุมมองเช่นนี้ยิ่งตอกย้ำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงไปอีก"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เฟดประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรสหรัฐเป็นวงเงินสูงสุดถึง 3 แสนล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งเพิ่มการซื้อสินทรัพย์ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันมากขึ้นไปจนถึงการใช้นโยบายลดดอกเบี้ยเงินกู้ของผู้บริโภค