นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ“มาตรการการเงินและสถาบันการเงินไทยในภาวะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน"ว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 52 ติดลบตามภาวะเศรษฐกิจโลก เพราะปัญหาวิกฤติในระดับโลกค่อนข้างหนักและมีความรุนแรงจากที่เคยประสบมาในช่วง 70 ปี
"ปัญหาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และมีความซับซ้อนของปัญหามาก และเป็นปัญหาจากภาคเศรษฐกิจจริงและสถาบันการเงินฎนายบัณฑิต กล่าว
นายบัณฑิต กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในปี 52-53 ส่วนจะฟื้นตัวได้เมื่อใดขึ้นกับความสามารถในการดูแลปัญหาและการประคับประคองและการปรับตัว
เศรษฐกิจโลกที่ยืดเยื้อมา 18-19 เดือนแล้วกระทบต่อไทยโดยทำให้เงินลงทุนต่างประเทศไหลกลับ ทำให้กดดันราคาสินค้าลดลง เงินบาทอ่อนค่า เห็นได้ชัดจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ปี 51 ลดไป 43% และปีนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันลดไป 3%
อีกทั้งกระทบสภาพคล่องในประเทศทำให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้น และจากที่บริษัทเอกชนต้องหันมาระดมในประเทศมากขึ้น แต่สภาพคล่องในไทยไม่ถึงกับมีปัญหา เพราะภาคครัวเรือนยังมีสภาพคล่อง รวมทั้งมีการอัดฉีดผ่านธปท. และการใช้จ่ายของภาครัฐ โดยขณะนี้สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก รวมตั๋วแลกเงินในเดือน ก.พ. อยู่ที่ 85.2%