นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายมีช่อง(Room)ที่จะปรับลดลงได้อีก แต่คงจะยังไม่เข้าใกล้ 0% เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะกระทบกับเงินฝาก โดยอาจจะทำให้มีเงินไหลออกจากเงินฝากไปลงทุนประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
"0% เกิดขึ้นได้ยากสำหรับไทย เรายังต้องการเงินออม ถ้าเงินไหลออกไปสู่ผลตอบแทนที่สูงกว่าก็จะลำบาก...ไทยแตกต่างจากสหรัฐ ต่อไปก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ความเชื่อถือในดอลลาร์อาจลดลง แต่นโยบายการเงินของไทยช่วยได้แค่ผ่อนปรน" นายจักรมณฑ์ กล่าว
นอกจากนั่น ยังมองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไปมากไม่ได้ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากมายนัก เนื่องจากมีผลต่อการกระตุ้นด้านอุปสงค์อย่างเดียว ขณะที่สภาพคล่องในประเทศยังมีเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาเรื่องคนยากจน และคนตกงาน เพราะรัฐสามารถดูดซับสภาพคล่องจากระบบได้ผ่านการออกพันธบัตร
"(ลดดอกเบี้ย)ช่วยธุรกิจในแง่ต้นทุนเบาลง แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจเร่งตัวขึ้นได้ เป็นเพียงการประคับประคองเท่านั้น...ไทยเหมือนอยู่ ICU ต้องประคับประคอง อย่าเอาไฟไปช็อตเดี๋ยวก็ตาย"
นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า โอกาสที่อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย(จีดีพี)ปี 52 จะติดลบ 3% มีความเป็นไปได้ แต่จากที่มีบางสำนักประเมินว่าอาจติดลบไปถึง 9% ยังไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากขณะนี้ยังมองไม่เห็นชัดเจนว่าเศรษฐกิจโลกจะดิ่งลงไปลึกมากแค่ไหน แต่หากเศรษฐกิจโลกชะลอก็จะกระทบกับการส่งออกของไทย เนื่องจาก 60% ของจีดีพีมาจากการส่งออก