ยอดส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.พ. เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐและยุโรปที่เลวร้ายลงจนบั่นทอนอุปสงค์รถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่น
กระทรวงคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นดิ่งลง 49.4% จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับที่ร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 และทรุดตัวลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะรูดลง 47.6%
โดยยอดส่งออกยานยนต์ทรุดฮวบลง 70.9% จากปีก่อนหน้านี้ และยอดส่งออกชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ถอยรูดลง 51.1%
ขณะเดียวกัน อุปสงค์สินค้าญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในตลาดทุกภูมิภาค โดยยอดส่งออกไปสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นวูบลง 58.4% ส่วนยอดส่งออกไปยุโรปตกลง 54.7% ขณะที่ยอดส่งออกไปเอเชียร่วง 46.3% และยอดส่งออกไปจีนลดลง 39.7%
ด้านนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะได้ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเป็นฉบับที่ 3 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของตลาดสำคัญของญี่ปุ่นได้กดดันให้มีคนตกงานหลายพันตำแหน่ง อีกทั้งยังเป็นภัยคุกคามอุปสงค์ภายในประเทศ
ขณะเดียวกันนายคาโอรุ โยซาโน่ รัฐมนตรีกระทรวงบริการการเงินญี่ปุ่น กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่มูลค่าสูงถึง 20 ล้านล้านเยน (2.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้นจะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจที่ดำดิ่งลงสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2488
ฮิโรชิ ชิราอิชิ นักเศรษฐศาสตร์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ในโตเกียวกล่าวว่า "ขณะนี้ตลาดมีกระแสความตื่นตระหนกต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต และถึงแม้ว่ารัฐบาลจะสามารถกระตุ้นอุปสงค์ได้ในระยะนี้ แต่ไม่สามารถเติมเต็มช่องว่างของการส่งออกได้ตลอดไป"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08:56 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนเทรดที่ระดับ 98.23 ดอลลาร์/เยน จากระดับ 98.25 ดอลลาร์/เยน โดยในปีนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงแล้ว 7.8%