ญี่ปุ่นส่อเค้าเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเผชิญภาวะเงินฝืดเข้าไปทุกขณะ หลังทางการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนก.พ.ที่ย่ำฐานทรงตัวในระดับเดิม ขณะที่ยอดค้าปลีกตกต่ำลงหนักสุดในรอบเกือบ 7 ปี
กระทรวงการค้าญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาเชื้อเพลิงและอาหารในเดือนก.พ.ย่ำฐานทรงตัวที่ระดับเดิมในปีที่แล้ว ขณะที่ยอดค้าปลีกลดลง 5.8% ซึ่งร่วงลงหนักกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 3%
ยอดส่งออกที่ร่วงหนักเกินความคาดหมายกำลังสร้างแรงกดดันให้บริษัทต่างๆปลดพนักงานและลดค่าแรง ซึ่งทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนลดลง และส่งผลให้เศรษฐกิจใกล้เผชิญภาวะตกต่ำหนักสุดนับตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สองเข้าไปทุกที ขณะที่อัตราดอกเบี้ยในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 0.1% และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีช่องทางที่จำกัดในการสกัดกั้นภาวะเงินฝืด
ริชาร์ด เจอร์แรม หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทหลักทรัพย์ Macquarie Securities Ltd. ในโตเกียวกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า "ญี่ปุ่นกำลังกลับไปเผชิญกับภาวะเงินฝืด ขณะที่ราคาสินค้าในประเทศมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ซึ่งวิกฤตเงินฝืดนั้นสร้างความเสียหายต่อภาคเอกชนและทำให้บีโอเจไม่สามารถลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับที่เหมาะสมได้"
"มีหลายเหตุผลที่ทำให้เราเริ่มวิตกกังวลว่าญี่ปุ่นจะกลับมาเผชิญภาวะเงินฝืดอีกครั้ง" อาซุสะ คาโตะ นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ในโตเกียวกล่าว "บริษัทหลายแห่งจะแข่งกันลดราคาสินค้าลงเพื่อหวังโละสินค้าค้างสต็อก และหากบริษัทมีผลประกอบการขาดทุนก็จะต้องมีการปรับลดค่าแรง ซึ่งจะยิ่งทำให้อัตราการล้มละลายเพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า"ทั้งนี้ อัตราค่าจ้างของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ส่งผลให้ผู้บริโภคมีเงินในการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง และกดดันให้ผู้ค้าปลีกต้องปรับลดราคาสินค้าตามมา