ธนาคารกลางอินโดนีเซียและมาเลเซีย สนับสนุนข้อเรียกร้องของจีนที่ต้องการให้ใช้เงินสกุล SDR เป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ โดยระบุว่า การใช้สกุลเงิน SDR เป็นสกุลเงินโลกจะช่วยควบคุมภาวะผันผวนและกระตุ้นการค้าให้ขยายตัวเร็วขึ้น
นายโบเอดิโอโน ผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียกล่าวว่า "เราต้องการสกุลเงินที่มีเสถียรภาพทั้งในแง่วอลุ่มและมูลค่า เพื่อให้การค้าและการลงทุนทั่วโลกมีเสถียรภาพด้วย ธุรกรรมการค้าที่ใช้เงินสกุลเดียวจะช่วยกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศให้ขยายตัวเร็วขึ้น" ขณะที่เซติ อัคตาร์ อาซิส ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซียกล่าวว่า "เราควรนำข้อเสนอของจีนมาพิจารณา เพราะเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ"
การแสดงความคิดเห็นของผู้ว่าการธนาคารกลางอินโดนีเซียและมาเลเซียขึ้นหลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุล SDR เป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พร้อมเสนอให้ยกเครื่องระบบการเงินโลกที่ไร้การครอบงำจากสหรัฐ ขณะที่เว็บไซต์ IMF ระบุว่า สหรัฐพยายามขัดขวางไม่ให้มีการขยายการใช้ระบบสกุลเงิน SDR มาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว
มิทัล โกเตชา หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารคาลิยงในฮ่องกงกล่าวว่า "ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันมานี้สะท้อนให้เห็นว่าความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ "กำลังจะจบสิ้นลง" และจีนมีเจตนาที่จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์ตกเป็นเป้าการอภิปรายในที่ประชุม G20 วันที่ 2 เม.ย. และต้องการให้ที่ประชุมเบนความสนใจออกจากประเด็นออกจากสกุลเงินที่ถูกระบุว่าอ่อนค่าเกินจริง"
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแอลงนับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ที่ครอบคลุมถึงการข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และดอลลาร์ได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้นเมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศใช้งบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อกำจัดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพออกจากงบดุลบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ภายใต้ชื่อ "โครงการลงทุนภาครัฐ-เอกชน" (Public-Private Investment Programme) สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน