เงินเยนและเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบเงินยูโร หลังจากที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวว่าการปล่อยให้บริษัทยานยนต์สหรัฐล้มละลายอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมยานยนต์
เงินเยนยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบเงินสกุลหลักทั้ง 16 สกุล หลังตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยอาจทำให้อุตสาหกรรมการเงินได้รับความสูญเสียยิ่งกว่าเดิม ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อเทียบเงินยูโร หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปอาจลดดอกเบี้ยแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
"ตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล" โทชิฮิโกะ ซากาอิ หัวหน้าฝ่ายซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจากบริษัท มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสท์ แอนด์ แบงค์กิง คอร์ป กล่าว "เงินเยนและเงินดอลลาร์จึงมีแนวโน้มว่าจะถูกกว้านซื้อ"
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 13.14 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าแตะระดับ 128.67 เยนต่อยูโร จาก 130.04 เยนต่อยูโรเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และแข็งค่าแตะ 97.24 เยนต่อดอลลาร์ จาก 97.86 เยนต่อดอลลาร์
ส่วนเงินดอลลาร์แข็งค่าแตะ 1.3230 ดอลลาร์ต่อยูโร จาก 1.3287 ดอลลาร์ต่อยูโร และแข็งค่าสู่ระดับ 1.42222 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จาก 1.4320 ดอลลาร์ต่อปอนด์
เงินเยนแข็งค่าหลังดัชนีนิกเกอิ 225 ปรับตัวลดลง 2.8% ในขณะที่ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลงกว่า 3% ส่วนดัชนีล่วงหน้า Standard & Poor’s 500 ลดลง 1.6%
ทั้งนี้ จีเอ็มต้องการกู้เงินจากรัฐบาลสหรัฐอีก 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่กู้มาแล้ว 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนธ.ค. ส่วนไครส์เลอร์ต้องการกู้เพิ่มอีก 5 พันล้านดอลลาร์ หลังกู้ไปแล้ว 4 พันล้านดอลลาร์