การประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 แห่ง หรือ G20 ที่กรุงลอนดอนได้เปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ ซึ่งผู้นำจากประเทศต่างๆได้เข้าร่วมหารือกันโดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุข้อตกลงกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ท่ามกลางการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างในที่ประชุม
การประชุมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 8.30 น. หลังจากที่บรรดาผู้นำได้รับการต้อนรับโดยนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ณ บริเวณทางเข้าศูนย์นิทรรศการ ExCel London ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมในครั้งนี้
นายบราวน์ ในฐานะเจ้าภาพ ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า การประชุมครั้งนี้จะช่วยปูทางให้เกิดข้อตกลงที่สร้างสรรค์ในการปฏิรูปและฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เขาได้เดินทางเยือนหลายประเทศทั่วโลกและได้พบกับผู้นำของประเทศต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุม
บราวน์กล่าวก่อนเริ่มการประชุมว่า เรากำลังจะร่วมกันหาแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าเราต้องพิจารณามาตรการต่างๆให้ได้ในทุกแง่มุม
ขณะที่ทั่วโลกต่างตั้งความหวังว่า ผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกจะให้คำมั่นในการร่วมมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และยกเครื่องระบบโครงสร้างการเงินโลก รวมถึงขัดขวางการใช้นโยบายปกป้องตนเอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดเงิน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีเป้าหมายที่จะปฏิรูปกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก เพื่อให้สามารถรับมือกับวิกฤตได้ดีขึ้น ตลอดจนสนับสนุนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ให้มีสิทธิ์มีเสียงเพิ่มมากขึ้นในเวทีโลก
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้นสะท้อนให้เห็นได้จากการที่สหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่นประกาศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ตรงข้ามกับเยอรมนีและฝรั่งเศสที่ยังวิตกกังวลว่า การแก้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าวจะก่อให้เกิดภาระหนี้สินมากขึ้น โดยทั้งสองประเทศได้เรียกร้องให้มีการกำหนดข้อบังคับด้านการกำกับดูแลสถาบันการเงินที่เข้มงวดขึ้นมาเป็นวาระสำคัญอันดับหนึ่งในการประชุม โดยชี้ว่านโยบายดังกล่าวต้องสามารถอุดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดการหลบเลี่ยงภาษีได้
ทั้งนี้ คาดว่าผู้นำจากประเทศต่างๆจะร่วมหารือกันอย่างคร่ำเคร่ง ก่อนที่จะมีการออกแถลงการณ์ร่วมในวันสุดท้ายของการประชุม
โดยการประชุมที่ลอนดอนในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองหลังจากที่บรรดาผู้นำประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
สำหรับกลุ่ม G20 ประกอบไปด้วย ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (G7) ได้แก่ อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา บวกกับ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดิอาระเบีย แอฟริกาใต้ ตุรกี และสหภาพยุโรป
นอกจากผู้นำประเทศและกลุ่มประเทศข้างต้นแล้ว การประชุมครั้งนี้ยังร่วมด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสหประชาชาติ องค์การการค้าโลก ธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ กลุ่มความร่วมมือเพื่อพัฒนากลุ่มประเทศแอฟริกา (NEPAD) และสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)