นักวิเคราะห์ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็น คาดการณ์ว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.50% สู่ระดับ 1% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งจะเป็นการลดดอกเบี้ยติดต่อกันในการประชุม 4 ครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะยับยั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังจากยอดส่งออกและดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยทรุดตัวลง
ยูเบน ปาราเซลเลส นักวิเคราะห์จากรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ในสิงคโปร์กล่าวว่า ยอดส่งออกของไทยซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขจีดีพี ทรุดตัวลงในช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งอาจทำให้เศรษฐกิจของไทยในปีนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และก่อนหน้านี้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจถูกปรับลดลงอีกเนื่องจากการลดดอกเบี้ยเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของธนาคารแห่งประเทศไทย และเราคาดว่าอัตราการบริโภคในภาคเอกชนของไทยจะหดตัวลงอีก เนื่องจากตัวเลขว่างงานทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆในเอเชียที่ต้องพึ่งพาการส่งออกแบบไทยนั้น ยังคงพุ่งสูงขึ้น" ปาราเซลเลสกล่าวปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธปท.ยืนอยู่ที่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี หลังจากธปท.ลดดอกเบี้ยลงแล้ว 3 ครั้งรวมทั้งสิ้น 2.25% ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับตัวลดลงนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้
รายงานระบุว่ารัฐบาลไทยเตรียมจัดสรรงบประมาณมูลค่า 1.57 ล้านล้านบาท หรือ 4.44 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี โดยส่วนใหญ่มุ่งเน้นการใช้จ่ายในโครงการสาธารณูปโภค เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลใช้งบประมาณไปแล้ว 1.167 แสนล้านบาทเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน โครงการเสริมสร้างทักษะบุคลากร โครงการเช็คช่วยชาติ และการลดหย่อนภาษี สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
.