ADB เผยตลาดทุนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชียเริ่มมีเสถียรภาพ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 21, 2009 11:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ชี้ตลาดทุนในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียเริ่มที่จะมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะมีความยืดหยุ่นในภูมิภาคแห่งนี้จะช่วยสนับสนุนเรื่องการฟื้นตัว ขณะที่วิกฤตเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลงและความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นคืนมา อย่างไรก็ดี หนทางของการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และตลาดเงินในเอเชียนั้น จะยังคงไม่เกิดขึ้นในทันทีทันใด เนื่องจากความผันผวนของระยะเวลาและความรุนแรงของเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างปัจจุบัน

รายงานของเอดีบีที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้มีเนื้อหาครอบคลุมถึงเศรษฐกิจของประเทศเศรษฐเกิดใหม่ 11 รายในเอเชีย อาทิ จีน อ่องกง ไต้หวัน อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

จอง วาลี หัวหน้าสำนักงาน Office of Regional Economic Integration ของเอดีบี กล่าวว่า ตลาดเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียได้รับผลกระทบหนักกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่เศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียจำนวนมากจะยังคงขยายตัวต่อไปได้ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจในโลกหดตัวลง โดยตลาดเงินของเอเชียน่าจะคืบหน้ามากกว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาค

กระแสเงินทุนที่ไหลออกจากภูมิภาคเอเชียนั้นชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่มีการถอนเงินทุนเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่า นักลงทุนต่างชาติมีมุมมองที่เป็นลบน้อยลงเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจในภูมิภาค สำหรับตลอดทั้งปีนี้ กระแสเงินทุนไหลเข้ามายังภูมิภาคคาดว่าจะยังคงเป็นบวก แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าปี 2550 ซึ่งเป็นปีที่มียอดการลงทุนสูงเป็นประวัติการณ์มากก็ตาม

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ลีกล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดเอเชียเมื่อเร็วๆนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกันระหว่างตลาดและเศรษฐกิจของประเทศต่างๆทั่วโลก อีกทั้งยังเน้นให้เห็นถึงความจำเป็นที่รัฐบาลและหน่วยงานด้านการเงินทั่วโลกจะปรับปรุงกฎระเบียบ ขั้นตอนการดูแล และการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

ราคาหุ้นในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียนั้นอ่อนตัวลงเกือบ 42% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค. โดยตลาดในอินเดีย อินโดนีเซีย และไทยนั้นห่างไกลจากจุดเลวร้ายมากกว่า โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงแค่ 16%

ขณะเดียวกัน สกุลเงินของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ส่วนพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นยังอยู่ในสถานภาพที่ดี แต่การขายพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐในภูมิภาคพุ่งสูงขึ้นมาก นับเป็นปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นสถานการณ์ในการหาเงินทุนจากต่างประเทศที่เป็นไปอย่างยากลำบาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ