รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยว่า งบประมาณที่รัฐบาลนำไปใช้ในการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินภายในประเทศพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4 ล้านล้านปอนด์ หรือ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วในขณะนี้ และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจพุ่งขึ้นอีกเนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินส่งผลกระทบอย่างหนัก ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนเตือนว่าสถาบันการเงินในอังกฤษอาจต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพิ่มขึ้น
เมื่อวานนี้ คณะทำงานของนายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ตัดสินใจใช้งบประมาณของชาติเข้าค้ำประกันตราสารที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) อีก 5 หมื่นล้านปอนด์ เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ในภาคการธนาคารของอังกฤษนับตั้งแต่ธนาคารนอร์ธเทิร์นร็อคล้มละลายในปี 2550 โดยที่ผ่านมารัฐบาลอังกฤษได้เข้าเทคโอเวอร์ธนาคารแล้ว 4 แห่ง อีกทั้งรับประกันสินทรัพย์ และประกันเงินกู้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอย
อลัน คล้าก นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์ ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "งบประมาณที่นำไปอุ้มสถาบันการเงินของอังกฤษพุ่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สิ่งที่น่ากังวลก็คือตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก เหตุนี้รัฐบาลควรถอยกลับมาประเมินสถานการณ์ก่อนที่จะรุกเข้าช่วยเหลือในระยะต่อไป"
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIERS) เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอังกฤษในไตรมาสแรกปีนี้ หดตัวลง 1.5% ซึ่งเป็นสถิติที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี หรือนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2522 ที่นางมาร์กาเร็ต แทธเชอร์ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ
ขณะที่สมาคมหอการค้าอังกฤษรายงานว่า ยอดส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในไตรมาสแรก ซึ่งอาจทำให้ที่ประชุมธนาคารกลางอังกฤษตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่ยอดขายรถในอังกฤษเดือนมี.ค.ร่วงลง 31% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน