In Focusไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ภัยพิบัติด้านสาธารณสุขล่าสุดของโลก

ข่าวต่างประเทศ Tuesday April 28, 2009 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตอนนี้ ประเทศต่างๆทั่วโลกล้วนงานเข้า หลังจากที่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก (Swine flu) หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า ไข้หวัดหมู ได้แพร่ระบาดในเม็กซิโกและประเทศต่างๆ จนทำให้รัฐบาลของประเทศต่างๆทั่วโลกต่างเร่งมือเพื่อควบคุมและป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกนี้เข้ามาระบาดในประเทศของตนเอง โดยเม็กซิโกมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 149 คนแล้ว และผู้ป่วยอีกกว่า 1,000 คน นอกจากนี้ สหรัฐ และแคนาดาก็เป็นอีกพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเพิ่มระดับการเตือนภัยไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ในวันนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกสามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนและอาจจะกระจายต่อไปยังชุมชน โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข

อย่างไรก็ตาม นายเกรกอรี ฮาร์ทเทิล โฆษกของ WHO กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ WHO ยังไม่ออกคำแนะนำใดๆให้นานาประเทศทั่วโลกใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง พร้อมระบุว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐดำเนินการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกอย่างเร่งด่วน

*สหรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังพบผู้ติดเชื้อ 20 รายใน 5 รัฐ

ดร.ริชาร์ด เบสเซอร์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ หลังจากที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว 20 รายใน 5 รัฐ ได้แก่ นิวยอร์ก 5 ราย แคลิฟอร์เนีย 7 ราย เท็กซัส 2 ราย แคนซัส 2 ราย และโอไฮโอ 1 ราย และคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก การเดินทางของไวรัสไข้หวัดหมูปรากฏขึ้นเรื่อยๆในหลายทวีปหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ยุโรป โดยสเปนได้มีรายงานผู้ป่วยหลังจากที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกแล้ว 1 ราย ขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ขณะที่สก็อตแลนด์ได้มีการยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก 2 ราย ซึ่งผู้ป่วย 2 รายนี้ป่วยหลังเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวในเม็กซิโกและกำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

เหยื่อรายล่าสุดที่อาจจะเป็นเหยื่อไวรัสสายพันธุ์เม็กซิโกในเอเชีย คือ เกาหลีใต้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกอยู่ว่า ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกหรือไม่ สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า อาจจะผลการตรวจสอบอย่างเร็วสุดในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่ได้ตรวจสอบชาวเกาหลีใต้ที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกไปแล้ว 2 ราย และผลการตรวจสอบออกมาเป็นลบ

นิวซีแลนด์ก็เป็นอีกประเทศในอีกซีกโลกที่กำลังเผชิญอยู่กับผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมู ซึ่งเป็นนักเรียนที่เดินทางกลับจากเม็กซิโกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีอาการป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก ล่าสุด พบเด็กนักเรียนอีก 3 รายที่มีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่และพึ่งจะเดินทางกลับมาจากเม็กซิโกเช่นกัน หากผลการทดสอบยืนยันออกมาเป็นบวก ยอดผู้ป่วยไข้หวัดหมูในนิวซีแลนด์จะเพิ่มขึ้นเป็น 13 ราย

หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียต่างตื่นตัวและนำมาตรการต่างๆมาใช้รับมือในทันที รัฐบาลญี่ปุ่นสั่งคุมเข้มด่านกักกันโรคและการตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนพิจารณาเรื่องการผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดหมู จีนเองเพิ่มระดับการระมัดระวังตามสนามบินและจุดตรวจคนเข้าเมืองมากขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสอบผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโรคดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่สนามบินจีนได้นำอุปกรณ์สำหรับวัดอุณหภูมิร่างกายมาใช้งาน รวมทั้งเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันโรคสำหรับพนักงานที่สนามบิน ขณะที่สิงคโปร์ได้ติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ 15 เครื่องที่จุดตรวจผู้โดยสารในสนามบินนานาชาติชางฮี ส่วนทางฮ่องกงก็ได้ยกระดับการป้องกันไข้หวัดหมูสู่ระดับรุนแรงจากเดิมที่ระดับเฝ้าระวัง

จอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของไข้หวัดสายพันธ์ต่างๆไว้อย่างรัดกุม โดยได้จัดเตรียมยาทามิฟลูจากบริษัทโรช โฮลดิ้งไว้ประมาณ 1.4 ล้านโดส

นายบัน กี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า ไวรัสไข้หวัดหมูอาจระบาดครั้งใหญ่ไปทั่วโลกเหมือนไข้หวัดใหญ่สเปนในอดีต ที่มีผู้เสียชีวิตหลายสิบล้านคน ซึ่ง UN ยังไม่ทราบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะเป็นไปอย่างไร แต่สิ่งที่น่าวิตกกังวลคือการพบว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ในเม็กซิโกเป็นผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง

ด้านโฆษกของ CDC เปิดเผยว่า CDC ได้นำยาต้านไวรัสในคลังสำรองของรัฐบาลถึง 11 ล้านโดส หรือ 25% ออกมาแจกจ่ายให้รัฐต่างๆ เพื่อรับมือกับไวรัสไข้หวัดหมูแล้ว รวมถึงรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย และเท็กซัส

*รู้จักกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ระบุว่า ไข้หวัดเม็กซิโกเป็นโรคระบบทางเดินหายใจในสุกรที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ ซึ่งปกติมักจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดในสัตว์ ส่วนใหญ่ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโกมักจะเกิดขึ้นจากการสัมผัสสุกร ขณะที่ความรุนแรงของอาการป่วยนั้น จะหลากหลายตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงระดับรุนแรง

แม้ว่า ในเบื้องต้นผู้ติดเชื้อจะได้รับเชื้อมาจากการสัมผัสสุกร แต่ก็มีการแพร่เชื้อจากคนสู่คน ผู้เชี่ยวชาญคิดว่า การไอ การจาม และการสัมผัส เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อแพร่กระจายในหมู่ประชาชน แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าการติดเชื้อจากสาเหตุดังกล่าวจะเกิดขึ้นง่ายมากน้อยเพียงไร อย่างไรก็ดี การรับประทานเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์จากเนื้อหมูปรุงสุกไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อ

สำหรับอาการของผู้ติดเชื้อจะคล้ายๆกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ กล่าวคือ ผู้ป่วยจะมีไข้ ไอ เจ็บคอ ผื่นขึ้นตามร่างกาย ปวดหัว หนาวสั่น และอ่อนเพลีย รวมถึงท้องเสียและอาเจียน แต่ผู้ป่วยไข้หวัดหมูอาจจะมีอาการป่วยเรื้อรัง ผู้ป่วยอาจจะเสียชีวิตได้หากว่า มีอาการป่วยในขั้นรุนแรงถึงขนาดปอดบวมและระบบการหายใจล้มเหลว

ซีเอ็นเอ็นระบุว่า การรักษาไข้หวัดเม็กซิโกนั้น สามารถใช้ยาต้านไวรัสอย่าง oseltamivir หรือ zanamivir แต่ยาจะออกฤทธิ์ได้ดีที่สุดก็ต่อเมื่อผู้ป่วยทานยาภายในช่วง 2 วันแรกที่มีอาการ ขณะที่เอพีรายงานว่า ยาทามิฟลูก็สามารถใช้รักษาได้เช่นกัน

ขณะที่ WHO ได้ประกาศว่าโรคไข้หวัดหมูเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขในระดับโลก" พร้อมกับเตือนว่า ไวรัสไข้หวัดหมูสามารถกลายพันธุ์ไปสู่สายพันธุ์ที่อันตรายกว่าเดิมได้

*วิธีการป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก

การป้องกันตนเองในเบื้องต้นสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่อาจจะติดต่อกันได้ผ่านทางการไอ การจาม และการสัมผัสนั้น ก็คือ การใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือกระดาษทิชชู่ปิดปากเวลาไอหรือจาม ล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ หรือเจลล้างมือ หากป่วยให้พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน สำหรับเด็กๆนั้น หากป่วยก็ให้หยุดพักอที่ยู่บ้านเช่นกัน เพื่อที่จะได้ไม่ไปแพร่เชื้อในโรงเรียน

โดยปกติแล้ว ไวรัสไข้หวัดใหญ่มักจะแพร่กระจายจากการไอหรือจามโดยที่ไม่ได้มีการปิดปาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้ผู้จามที่ปิดปากด้วยมือที่ยังไม่ได้ล้างของตนเองรับเชื้อเข้าไปได้ ไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถมีชีวิตอยู่ได้บนพื้นผิวต่างๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง ดังนั้น การจับลูกบิดประตูที่ใครคนใดคนหนึ่งจามและใช้มือปิดปาก แล้วมาจับลูกบิดดังกล่าวก็อาจจะทำให้ผู้ที่จับลูกบิดประตูคนถัดไปสัมผัสกับเชื้อโรคได้

สำหรับสาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตในเม็กซิโก แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตในประเทศอื่นๆนั้น ยังไม่มีใครหาสาเหตุได้ และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีหน่วยงานใดมีข้อมูลที่แน่นอนว่า ชาวเม็กซิโกเสียชีวิตไปมากน้อยแค่ไหน เพราะตัวเลขที่มีการยืนยันออกมาตามสื่อนี้ คือ ผู้เสียชีวิตที่ทางการสงสัยว่าจะติดเชื้อและนำมาตรวจสอบหาเชื้อ

*หุ้นสายการบินร่วงสวนทางหุ้นบริษัทยาพุ่ง

ข่าวไข้หวัดเม็กซิโกระบาดทำให้หุ้นกลุ่มสายการบินดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นสายการบินแอร์ไชน่า, สิงคโปร์ แอร์ไลนส์ และแควนตัส แอร์เวย์ส เนื่องจากความกังวลที่ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดหมูที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐและเม็กซิโกอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจบริการทางอากาศ

เบน พ็อทเตอร์ นักวิเคราะห์จาก IG Markets กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า อุตสาหกรรมสายการบินซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากเศรษฐกิจโลกถดถอย กำลังเผชิญกับภาวะซบเซาครั้งใหม่เนื่องจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดหมูในเม็กซิโก ขณะที่บริษัท พานาโซนิก คอร์ป และชาร์ป คอร์ป เตือนพนักงานให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปดูงานที่เม็กซิโก ขณะที่ทางการสหรัฐประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกในสหรัฐและเม็กซิโกพุ่งสูงขึ้น พร้อมระบายยาทามิฟูลต้านไวรัสออกจากคลังสำรอง

"ไข้หวัดเม็กซิโกกำลังส่งผลคุกคามอุตสาหกรรมสายการบินทั่วโลกเพราะจะทำให้จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินลดน้อยลง การแพร่ระบาดครั้งนี้ทำให้ผู้โดยสารหาทางหลีกเลี่ยงและป้องกันไม่ให้เกิดความเป็นไปได้ที่จะอยู่ใกล้กับผู้ติดเชื้อ และคาดว่ารัฐบาลในหลายประเทศจะสั่งการให้ลดเที่ยวบินเพื่อจำกัดการแพร่ระบาด" พ็อทเตอร์กล่าว
*นักวิเคราะห์หวั่นไข้หวัดเม็กซิโกกระทบเศรษฐกิจ

คอนห์ โกห์ นักวิเคราะห์จาก ANZ National Bank ในเวลลิงตันกล่าวว่า "นี่คือสถานการณ์ล่าสุดที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก แต่อาจไม่เลวร้ายเท่าไข้หวัดนกหรือโรคซาร์ส"

ทั้งนี้ โรคไข้หวัดหมูจะยิ่งสร้างแรงกดดันด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการที่แย่อยู่แล้วให้ยิ่งแย่ลงไปอีก หลังจากที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมานิวซีแลนด์ลดลงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อกัสติน คาร์สเทนส์ รัฐมนตรีคลังเม็กซิโก กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดหมูในเม็กซิโกอาจทำให้เศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วทรุดลงอีก เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอาจซบเซาลง และภาคส่วนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือโรงแรมและร้านอาหาร

ในขณะเดียวกัน อัลเบอร์โต เบอร์นัล หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารหนี้จากบริษัท บัลติค ซีเคียวริตีส์ คอร์ป กล่าวว่า จีดีพีของเม็กซิโกอาจหดตัวลงเกินคาดในปีนี้ หากจำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดหมูยังเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้เม็กซิโกต้องใช้ข้อบังคับด้านการค้าและการเดินทางที่เข้มงวด

อย่างไรก็ตาม คาร์สเทนส์กล่าวว่า นักลงทุนไม่ควรวิตกกังวลกับสถานการณ์การระบาดของโรคมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเพียงปัญหา "ชั่วคราว" และเม็กซิโกสามารถรับมือกับปัญหาดังกล่าวได้

ทั้งนี้ ฟิลิเป คัลเดอรอน ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศปิดโรงเรียนในกรุงเม็กซิโกซิตีจนถึงวันที่ 6 พ.ค., ระงับการจัดงานสาธารณต่างๆ และประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อรับมือกับไข้หวัดหมูซึ่งคร่าชีวิตเหยื่อไปแล้ว 81 รายในเม็กซิโก ส่วนทางด้านธนาคารโลกยินยอมให้เม็กซิโกกู้เงิน 205 ล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับไข้หวัดหมู โดยเงิน 25 ล้านดอลลาร์จากทั้งหมดจะถูกนำไปซื้อยาและอุปกรณ์ตรวจจับไวรัสในทันที

แม้ว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกยังไม่เข้ามาในบ้านเรา แต่การดูแลรักษาสุขภาพอย่างสม่ำเสมอถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ