นักวิเคราะห์เชื่อว่าการที่ ไครสเลอร์ แอลแอลซี และ เจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) ปิดโรงงานนานเกินไป อาจทำให้บริษัทซัพพลายเออร์ผู้จัดหาชิ้นส่วนยานยนต์ให้ทั้งสองบริษัทต้องปิดตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อ ฟอร์ด มอเตอร์ ที่ใช้บริการจากซัพพลายเออร์รายเดียวกัน
โดย ฟอร์ด ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์สหรัฐรายเดียวที่ยังประคองตัวเองได้ และกำลังเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น อาจต้องปิดตัวลงชั่วคราวหากบริษัทซัพพลายเออร์ดังกล่าวไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
ปัจจุบันจีเอ็มกำลังปิดโรงงาน 14 แห่งในอเมริกาเหนือนานอย่างน้อย 9 สัปดาห์ ในขณะที่ไครสเลอร์ก็เตรียมปิดโรงงานหลายแห่งในช่วง 1-2 เดือนนี้
"มีความเป็นไปได้สูงที่ฟอร์ดอาจต้องปิดตัวตามจีเอ็มและไครสเลอร์ไปโดยปริยาย" ไมค์ วอลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท CSM Worldwide ในนอร์ทวิลล์ มิชิแกน กล่าว "การปิดโรงงานของจีเอ็มและไครสเลอร์จะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนอย่างหนักแน่นอน"ในขณะเดียวกัน เครก ฟิตซ์เจอรัลด์ ที่ปรึกษาซัพพลายเออร์จากบริษัท Plante & Moran ในเซาท์ฟิลด์ มิชิแกน กล่าวว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และ ฮอนด้า มอเตอร์ โค ก็อาจได้รับผลกระทบเช่นกันหากซัพพลายเออร์ของจีเอ็มและไครสเลอร์ไม่สามารถฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ ฟอร์ดแชร์ซัพพลายเออร์ 70% ร่วมกับจีเอ็ม และ 64% ร่วมกับไครสเลอร์ ส่วนบริษัทผลิตรถยนต์ในเอเชียแชร์ซัพพลายเออร์ 59% กับไครสเลอร์ และ 58% กับจีเอ็ม สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน