นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้การขอสินเชื่อจากภาคเอกชนลดลง เห็นได้ว่าช่วงไตรมาส 1/52 สินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์หดตัวถึง 2.2% และคาดว่าไตรมาส 2/52 การปล่อยสินเชื่อในระบบของอยู่ในระดับไม่สูงเช่นกัน
ทั้งนี้ พบว่าภาคเอกชนหันมาระดมเงินโดยการออกหุ้นกู้มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะเวลาที่ดี ในช่วงสภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูง อีกทั้งทำให้การบริหารต้นทุนของบริษัทมีความมั่นคงมากกว่า มีการควบคุมต้นทุนการเงินในระยะยาวได้ ขณะที่การขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์จะมีต้นทุนที่สูงกว่า เนื่องจากธนาคารจะพิจารณาโดยคำนึงถึงความเสี่ยงทางธุรกิจด้วย
"ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีมากที่จะออกหุ้นกู้ เพราะสภาพคล่องในระบบมีสูง...ตอนนี้ มีบริษัทเอกชนหลายแห่งให้ธนาคารเป็นที่ปรึกษาออกหุ้นกู้มากทั้งธุรกิจการค้า พาณิชย์ อสังหาฯ พลังงาน"นายประสาร กล่าว
นายประสาร กล่าวอีกว่า ขณะนี้สภาพคล่องในระบบยังมีอยู่สูง ยังมีเพียงพอรองรับแผนการกู้เงินของรัฐบาล จำนวน 8 แสนล้านบาท เนื่องจากแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของภาคเอกชนในปีนี้ น่าจะขยายตัวไม่สูงมาก และไม่ได้เป็นการแย่งเงินจากระบบกับภาคเอกชน และคาดว่าการกู้เงินของภาครัฐ จะไม่ทำให้ต้นทุนเงินกู้สูงขึ้น หากมีการกำหนดระยะเวลาการระดมเงินที่เหลื่อมเวลากันได้
กรรมการผู้จัดการ KBANK กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวอย่างมากในช่วงปนี้ หวังว่าจะเริ่มดีขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว และจากการที่รัฐบาลวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงคาดหวังว่าเศรษฐกิจในประเทศจะฟื้นตัวได้เร็วกว่านอกประเทศ โดยในช่วงปี 52-53 การลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นกลไกหลักต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน ต้องดูแลการเมืองให้มีเสถียรภาพด้วย ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้