ญี่ปุ่นเผยความต้องการบริการร่วงหนักสุดในรอบ 12 ปีในเดือนมี.ค. หลังอัตราว่างงานพุ่งสูงจนผู้บริโภคต้องลดการใช้จ่ายลง
กระทรวงการค้ารายงานว่า ดัชนีตติยภูมิ ซึ่งเป็นตัววัดการใช้จ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ และค่าเดินทางของภาคครัวเรือนและธุรกิจ ร่วงลง 4% ในเดือนมี.ค.จากเดือนก.พ. ซึ่งถือว่าร่วงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2540 ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะหดตัวลงเพียง 1.5%
เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 15.2% ในไตรมาสที่แล้ว หลังภาคเอกชนและผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง โดยคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและนโยบายการคลังกล่าวว่า อัตราว่างงานที่พุ่งสูงยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ แม้จะมีสัญญาณว่าภาคการผลิตและส่งออกเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม
"ภาคครัวเรือนต่างมีความยับยั้งชั่งใจในการใช้เงินมากขึ้นเรื่อยๆ" เคียวเฮ โมริตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก บาร์เคลย์ แคปิตอล ในโตเกียว กล่าว "เป็นเรื่องยากที่การใช้จ่ายผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจย่ำแย่ อัตราว่างงานพุ่งสูง และค่าแรงลดลงเช่นนี้"ในขณะเดียวกัน ตัวเลขค้าปลีกและค้าส่งที่ลดลงก็เป็นอีกปัจจัยที่ฉุดให้ดัชนีตติยภูมิร่วงลง นอกจากนั้นความต้องการบริการด้านข้อมูลซึ่งรวมถึงซอฟท์แวร์ก็ร่วงลงถึง 18.8% แสดงให้เห็นว่าภาคเอกชนต่างลดกันใช้จ่ายกันอย่างถ้วนหน้า
"รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการใช้จ่ายภาคธุรกิจกำลังซบเซาอย่างหนัก ในขณะที่การใช้จ่ายผู้บริโภคก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน" มาซามิจิ อาดาจิ นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงจาก เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ในโตเกียว กล่าว "ปัจจัยดังกล่าวทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจมีความเสี่ยงสูงมาก" สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน