นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวถึงกรณีที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิสจะทบทวนอันดับเครดิตของ 11 ธนาคารไทยว่า กรณีดังกล่าวมีสาเหตุจากการที่มูดี้ส์ ปรับหลักเกณฑ์ของทางสถาบันเอง ทำให้มีการทบทวนอันดับเครดิตที่เคยให้ไว้ ไม่ใช่เป็นการทบทวนจากปัญหาสถานะของธนาคารเหล่านั้น และกรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการทบทวนเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น แต่สถาบันการเงินในต่างประเทศเองก็ถูกทบทวนเช่นกัน
ทั้งนี้ สำหรับการทบทวนอันดับเครดิตตามเกณฑ์ใหม่ในรอบนี้จะให้น้ำหนักไปที่ประเด็นของความสามารถในการให้ความช่วยเหลือของภาครัฐต่อสถาบันการเงิน
"เกณฑ์ที่มูดีส์มีการเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องมีการชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องการทำแบบนี้ ซึ่ง ธปท.ก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์มูดี้ส์คงประกาศเรื่องนี้ออกมา"นายบัณฑิต กล่าวอนึ่ง วานนี้ มูดี้ส์ระบุว่าจะทบทวนความเป็นไปได้ในการลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคาร 11 แห่งของไทย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารนครหลวงไทย (SCIB) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารทหารไทย (TMB)ธนาคารยูโอบี และ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
นายบัณฑิต กล่าวว่า ปัจจุบันสถานะของธนาคารไทยทั้งระบบยังคงเข้มแข็ง แข็งแรง ทำงานได้ดี โดยกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS)อยู่ในระดับสูงถึง 14.9% แม้ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ของไทยจะติดลบ 2 ไตรมาสติดต่อกัน แต่ผลประกอบการของภาคธนาคารยังออกมาดี ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ได้เร่งตัวขึ้นมาก สภาพคล่องยังมีสูง