นายกฯ ชูประกันราคาขั้นต่ำแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ลดภาระขาดทุนให้รัฐบาล

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 28, 2009 16:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ได้หารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าเกษตร ซึ่งรัฐบาลต้องการให้การแก้ปัญหาหลุดจากวงจรนโยบายที่ไม่เป็นจริง ดังนั้นจะลดการรับจำนำลง เพราะไม่ต้องการให้มีการตั้งราคารับจำนำสูง เนื่องจากเวลาขายออกจะต้องขาดทุนมหาศาลเป็นภาระกับงบประมาณ ขณะที่เกษตรกรที่ได้รับประโยชน์จริงมีน้อยราย และไม่สามารถดึงราคาผลิตที่เหลือให้สูงขึ้น

ดังนั้น ทางการจะใช้แนวทางการประกันราคาขั้นต่ำแทน ซึ่งจะเริ่มที่สินค้ามันสำปะหลังทั้งหมดตั้งแต่ฤดูกาลนี้ หากเกษตรกรขายสินค้าได้ต่ำกว่าราคาประกันขั้นต่ำ แต่เกษตรกรต้องเข้ามาจดทะเบียนก่อน รัฐบาลจะจ่ายชดเชยส่วนที่ขาดให้ ส่วนข้าวจะนำร่องเล็กน้อย และจะให้เกษตรกรซื้อประกันความเสี่ยง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องการระบายสินค้าเกษตรต้องการให้ดำเนินการอย่างโปร่งใส และให้รัฐบาลเสียหายน้อยที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องขายในราคาตลาดก็ได้ ในการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการได้หารือเรื่องการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรที่ได้

ส่วนการที่ผู้ชนะการประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลทั้ง 17 รายจะฟ้องร้องคณะรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย กรณีที่สั่งชะลอการขายนั้นไม่รู้สึกกังวล เพราะการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีถือเป็นนโยบายถูกต้อง และได้ให้คณะทำงานดูแลเรื่องนี้แล้ว

"การประมูลข้าวสารในสต็อกรัฐบาลครั้งนี้ ผมกังวลมากเรื่องขายขาดทุน ไม่อยากให้ขาดทุนมากๆ เหมือนปีก่อน จึงให้นโยบายไปว่าต้องทำอย่างโปร่งใส และทำให้รัฐบาลเสียหายน้อยที่สุด หากดำเนินการได้ตามนี้ แม้จะมีการเมืองแทรกแซงก็ไม่เป็นไร" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภคว่า ขณะนี้ไม่น่าห่วงแล้วเพราะอยู่ในภาวะที่ดูแลได้ แต่ยอมรับว่าในช่วงแรกของการเป็นรัฐบาลห่วงเรื่องเงินฝืดมาก เพราะเศรษฐกิจโลกซบ กำลังซื้อหด ราคาสินค้าลด แต่ขณะนี้อยู่ในภาวะที่ดูแลได้เพราะราคาน้ำมันเริ่มขยับสูงขึ้นและค่าเงินบาทเริ่มแข็งค่ามากขึ้น

สำหรับเรื่องการส่งออกของไทยนั้น ยอมรับว่าเห็นใจภาคการส่งออก เพราะกำลังซื้อทั่วโลกหดตัว จึงมีข้อจำกัดในเรื่องการขยายตลาด แต่กระทรวงพาณิชย์ก็พยายามหาช่องทางรักษาตลาดเก่าและขยายตลาดใหม่ ส่วนเรื่องค่าเงินที่ผู้ส่งออกแสดงความเป็นห่วงนั้นอัตราแลกเปลี่ยนของไทยเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาคมีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน ยกเว้นเกาหลีใต้และอินโดนีเซีย แต่การส่งออกของทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ดีกว่าของไทยเลย มูลค่าการส่งออกของไทยที่ลดลง เป็นเรื่องของกำลังซื้อในต่างประเทศลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

"ตอนนี้แบงก์ชาติกำลังดูแลเรื่องค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนเรื่องภาษีมุมน้ำเงิน ที่กระทรวงพาณิชย์จะให้รัฐบาลช่วยผู้ส่งออกนั้น ยังไม่เห็นรายละเอียด กำลังรอดูจากกระทรวงพาณิชย์ รัฐบาลจะหามาตรการช่วยเหลือเต็มที่ ไม่อยากให้มูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ติดลบเป็นตัวเลขถึง 2 หลัก หากติดลบที่ 15-20% ยอมรับได้หรือไม่นั้น ที่จริงก็ไม่อยากยอมรับเลย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า จะแจ้งให้น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์การระบายสินค้าเกษตรทุกรายการ โดยเฉพาะการเร่งหาข้อสรุปการระบายข้าวสารในสต็อกรัฐประมาณ 2 ล้านตัน ให้ผู้ส่งออก 17 ราย

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงยังไม่ได้ยกเลิกสัญญาซื้อขายกับเอกชนที่ชนะการประมูลข้าว ส่วนจะเป็นไปตามข้อสัญญาเดิมหรือไม่ต้องขึ้นกับผลการประชุมคณะทำงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ