พอร์ช เอสอี (Porsche SE) เผยจีนอาจก้าวขึ้นแซงหน้าเยอรมนีในการเป็นตลาดรายใหญ่ที่สุดอันดับสองภายใน 3 ปี จากอานิสงส์ของค่าจ้างที่ปรับตัวสูงขึ้นและอุปสงค์รถยนต์สปอร์ตซีดานรุ่นพานาเมร่าที่คึกคักหลังจากที่ได้เปิดตัวรถรุ่นดังกล่าวที่งานเซี่ยงไฮ้ ออโต้ โชว์เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
เฮลมุท โบรเกอร์ ประธานพอร์ชในประเทศจีนกล่าวว่า "บริษัทชั้นนำในจีนต่างรายงานผลประกอบการที่ดีกันทุกแห่ง ซึ่งในปีที่แล้ว จีนเป็นตลาดรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของพอร์ช ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอันดับ 15 ในปี 2549"
ทั้งนี้ พอร์ชมีแผนการเพิ่มดีลเลอร์ในจีนสูงสุด 38 แห่งในปี 2553 จากเดิม 25 แห่ง และเปลี่ยนสำนักงานไปยังเซี่ยงไฮ้เพื่อหวังเจาะกลุ่มลูกค้าและกระตุ้นยอดขายมากขึ้น ขณะที่ออดี้ เอจี, จากัวร์ แลนด์ โรเวอร์ และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ของเดมเลอร์ เอจีก็ตั้งเป้าที่จะสกัดภาวะอุปสงค์ตกต่ำในยุโรป และสหรัฐด้วยการเพิ่มการขายรถในประเทศจีนด้วยเช่นกัน
"จีนเป็นความหวังของผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์หรูเช่นพอร์ช" นักวิเคราะห์จาก CSC Securities HK Ltd. ในเซี่ยงไฮ้กล่าว "แม้ว่าจะเกิดวิกฤตการเงินแต่จีนก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่าในสหรัฐและยุโรป"สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พอร์ชมียอดสั่งซื้อรถรุ่นพานาเมร่าจากจีนแล้วกว่า 100 คันและอีก 100 คันในฮ่องกง ขณะที่ยอดสั่งซื้อรถของฮ่องกงอาจพุ่งขึ้นแตะ 200 คันก่อนที่จะวางจำหน่ายในท้องตลาดในเดือนก.ย. และคาดว่ายอดสั่งซื้อจากจีนอาจทะยานขึ้นแตะที่ 600 คัน
ในปีนี้ ยอดขายยานยนต์ของจีนทะยานขึ้น 14% เมื่อเทียบกับยอดขายยานยนต์ในสหรัฐที่ตกลง 37% ขณะที่พอร์ชสามารถกระตุ้นยอดขายได้ 3% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้แตะที่ 3,174 คัน