สำนักงานสถิติของอังกฤษเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนพ.ค.อ่อนตัวลงน้อยว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ โดยราคาอาหารที่ถูกลงและค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ลดลงได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2551
ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ค. ปรับตัวลง 2.2% จากระดับ 2.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งหมายความว่าเงินเฟ้อปัจจุบันอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2% มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว และนักเศรษฐศาสตร์ก็คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคจะปรับตัวลงแตะระดับ 1% หรือต่ำกว่านั้นภายในปีนี้
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ดัชนี CPI ลดลงนั้น เป็นเพราะการปรับตัวสูงขึ้นของราคาอาหารและพลังงานชะลอตัว โดยค่าไฟฟ้าในปีนี้ลดลงเมื่อเทียบกับราคาทรงตัวในปีก่อน อย่างไรก็ตาม ภาษีแอลกอฮอล์และบุหรี่ที่สูงขึ้นในงบประมาณปีนี้ บวกกับราคาดีวีดี โทรทัศน์ เสื้อผ้าและรองเท้าที่แพงขึ้นเป็นปัจจัยหนุนเงินเฟ้อ
พอล ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการด้านการตลาดของธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อของอังกฤษยังคงยืดเยื้อเนื่องจากเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อปีที่แล้ว ทางการยังคงมองว่าเงินเฟ้อจะชะลอตัวลงไปมากกว่านี้ ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้น 1.25 แสนล้านปอนด์ในรูปแบบของพันธบัตรใหม่ในตลาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเงินฝืด
เจมส์ ชักก์ นักเศรษฐศาสตร์ของเวสท์แพค แบงกิ้ง คอร์ป กล่าวว่า ตอนนี้มีความเสี่ยงที่ว่าภาวะเงินเฟ้อจะไม่ตกต่ำลงไปเหมือนกับที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะเงินปอนด์ที่อ่อนค่าช่วยลดผลกระทบจากเงินเฟ้อและเศรษฐกิจเองก็ส่งสัญญาณของการฟื้นตัวในระดับหนึ่ง