การส่งออกเนื้อจากสหรัฐอาจขยายตัวไม่ถึงระดับคาดการณ์ที่ 7% ในปีนี้ เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายเงินเพื่อซื้ออาหารที่มีราคาแพง
มาร์ก จาเกลส์ สมาชิกคณะกรรมาธิการฝ่ายบริหารของสมาคมผู้ส่งออกเนื้อของสหรัฐกล่าวว่า "เราเห็นถึงส่วนแบ่งทางการตลาดในส่วนของเนื้อหมูและเนื้อวัวที่เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ขณะนี้สหรัฐเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจทำให้การขยายตัวของการส่งออกเนื้อที่ระดับ 7% นั้นเป็นไปได้ยาก"
การส่งออกที่ชะลอตัวหนักกว่าที่คาดการณ์นั้นอาจส่งผลต่อราคาปศุสัตว์และรายได้บริษัทในภาคธุรกิจดังกล่าว เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำบั่นทอนการส่งออกและอุปสงค์ภายในประเทศ โดยธนาคารโลกเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า เศรษฐกิจโลกจะตกลลง 2.9% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ในก่อนหน้านี้ว่าจะลดลง 1.7%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ณ เวลา 11:40 น.ตามเวลาโตเกียว สัญญาซื้อขายปศุสัตว์ล่วงหน้าที่ตลาด Chicago Mercantile Exchange เคลื่อนไหวที่ระดับ 82.45 เซนต์/ปอนด์ โดยราคาสัญญาเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549 และตกต่ำลง 21% เมื่อปีที่แล้ว
ด้านสภาอุตสาหกรรมเนื้อจากไอโอว่ากล่าวว่า "เรายังไม่เห็นถึงสัญญาณที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวด้านการบริโภคเนื้อจากสหรัฐ ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้นต้องอาศัยเวลาอีกหลายเดือน"
โดยทางสมาคมคาดการณ์เมื่อเดือนมี.ค.ว่า ยอดส่งออกเนื้อวัวของสหรัฐอาจขยายตัวอยู่ที่ระดับ 1 ล้านตันในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้หันมาบริโภคเนื้อวัวในประเทศซึ่งเป็นตัวเลือกที่ถูกกว่า ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์อาจทำให้ต่างประเทศนำเข้าเนื้อจากสหรัฐได้มากขึ้น
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และการประมงของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ญี่ปุ่นนำเข้าเนื้อวัว 150,709 ตันซึ่งเพิ่มขึ้น 8.9% จากระดับ 138,362 ตันต่อปีในก่อนหน้านี้ โดยยอดนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 29% แตะระดับ 14,484 ตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 9.6 % ของยอดสั่งซื้อสินค้าทั้งหมดของญี่ปุ่น