เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อรายได้บริษัทเอกชนของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นเทขายสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินต่างชาติ และหันมาซื้อคืนสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินเยนกันมากขึ้น
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงจากความกังวลที่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปอีกนาน ซึ่งภาวะดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง ด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเป็นวันที่ 3 เมื่อเทียบกับเงินเยน หลังมีกระแสคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์สหรัฐที่มีบทบาทสำคัญต่อสถานะการเป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินต่างประเทศจะถูกนำมาหารือในที่ประชุมจี-8 ที่เริ่มต้นในวันนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 9:69 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะที่ 94.89 ดอลลาร์/เยน จากระดับ 94.60 ดอลลาร์/เยน และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรที่ 131.53 ยูโร/เยน จากระดับ 131.40 ยูโร/เยน
ไดสุเกะ อูโนะ นักวิเคราะห์จากซูมิโตโมะ มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ป นักวิเคราะห์กล่าวว่า "ตลาดยังได้รับปัจจัยลบอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และเงินเยนอาจพุ่งไปแตะที่ 92 ดอลลาร์/เยน และ 127 ยูโร/เยน"
นอกจากนี้ เงินเยนยังทรงตัวแข็งค่าหลังทางการเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในเดือนพ.ค.ที่ตกลง 3% จากเดือนเม.ย. หลังจากที่ทรุดตัวลง 5.4% ในเดือนก่อนหน้านี้ ขณะที่รายงานตัวเลขเศรษฐกิจอีกฉบับหนึ่งระบุว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดปรับตัวลดลงในเดือนพ.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลกจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะฟื้นตัวขึ้น โดยยอดเกินดุลตกลง 34.3% จากปีก่อนแตะที่ 1.302 ล้านล้านเยน