จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังระดับโลกเชื่อว่า เศรษฐกิจจีนที่มีความแข็งแกร่งคือแรงผลักดันชั้นดีที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากภาวะถดถอย
"สำหรับประเทศจีนแล้ว วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นคือผลกระทบที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งจีนยังสามารถกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศอื่นๆได้ ด้วยความที่ประเทศมีทุนสำรองเงินที่มั่นคง ประกอบกับมียอดเกินดุลการค้า ดังนั้นจีนจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ช่วยขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก"ขณะเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับทบทวนทิศทางเศรษฐกิจโลกในปีหน้าว่าจะดีดตัวขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.เนื่องจากระบบการเงินเริ่มมีเสถียรภาพ โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ระดับ 2.5% ในปีหน้าเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ในระดับ 1.9% เมื่อเดือนเม.ย. พร้อมทั้งคาดว่าในปีหน้าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ถึง 8.5% หลังจากที่ปีนี้เศรษฐกิจชะลอตัวมาอยู่ในระดับ 7.5%
อย่างไรก็ดี โซรอสเตือนว่า วิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้ด้วยการกระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคและภาคธุรกิจเท่านั้น แต่ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐยังคงมีหนี้เสียอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งเป็นปัจจัยที่เหนี่ยวรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตการเงินที่มีจุดเริ่มต้นจากการล่มสลายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเมื่อปี 2550 นั้น ทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินต้องเผชิญภาวะขาดทุนในตลาดสินเชื่อและต้องปรับลดมูลค่าทางบัญชีลงถึง 1.47 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สำคัญยังส่งผลกระทบให้ทั่วโลกเผชิญภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งหนักสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง