ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์และแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจากนักวิเคราะห์ชื่อดังคาดการณ์ว่าภาคการธนาคารจะมีผลประกอบการที่สดใส รวมถึงสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่างโกลด์แมน แซคส์
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.37% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0823 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0863 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ แต่ดีดขึ้น 0.37% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.860 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 92.520 เยนต่อดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.39% แตะที่ 1.3985 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.3930 ดอลลาร์ต่อยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.17% แตะระดับ 1.6226 ดอลลาร์ต่อปอนด์ จากระดับ 1.6198 ดอลลาร์ต่อปอนด์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.49% แตะที่ 0.7823 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7785 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 0.6322 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6272 ดอลลาร์สหรัฐต่อดอลลาร์นิวซีแลนด์
โยเซฟ เทรวิซานี นักวิเคราะห์จาก FXSolutions กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า นักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์และแห่เข้าเทรดในตลาดหุ้น หลังจาก เมเรดิธ วิทนีย์ นักวิเคราะห์ชื่อดังในวงการธนาคาร แสดงความเห็นต่อสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า หุ้นกลุ่มธนาคารจะปรับตัวขึ้นในระยะสั้นอย่างน้อย 15% และบริษัทการเงินรายใหญ่ อาทิ แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และโกลด์แมน แซคส์ซึ่งจะมีผลประกอบการที่ดีในไตรมาส 2
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ของภาคเอกชน โดยบริษัทที่คาดว่าจะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้คือ บริษัท เจเนอรัล อิเล็กทริค บริษัท ไอบีเอ็ม บริษัท อินเทล คอร์ป บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และซิตี้กรุ๊ป
ส่วนค่าเงินเยนแข็งแกร่งขึ้นหลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นยกระดับการประเมินเศรษฐกิจญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 หลังจากที่การบริโภคส่วนบุคคลฟื้นตัว และการส่งออกมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2545 ที่รัฐบาลยกระดับการประเมินเศรษฐกิจโดยรวม 3 เดือนติดต่อกัน
รายงานเศรษฐกิจรายเดือนของสำนักงานครม.ญี่ปุ่นระบุว่า เศรษฐกิจส่งสัญญาณของการฟื้นตัวขึ้นเมื่อเร็วๆนี้แม้ว่าสถานการณ์แวดล้อมจะยังอยู่ในภาวะยากลำบาก โดยการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและดีมานด์ในต่างประเทศที่ดีขึ้นมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นค่อยๆฟื้นตัวขึ้น