ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ระบุในรายงานประจำปีล่าสุดว่า เศรษฐกิจจีนสามารถหลบเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายจากช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลกได้ โดยสามารถขยายตัวได้ถึง 7.1% ช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า จีนจะสามารถจุดกระแสให้เกิดการฟื้นตัวขึ้นทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยการที่จะทำให้เศรษฐกิจในเอเชียฟื้นตัวขึ้นตามไปด้วยนั้น เศรษฐกิจจีนจะต้องขยายตัวอย่างแข็งแกร่งต่อไปอย่างต่อเนื่อง
การส่งออกของจีนร่วงลงอย่างมากเช่นเดียวกับเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออก แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมากของจีนดูเหมือนว่า จะช่วยจีนให้สามารถรับมือกับดีมานด์ในต่างประเทศที่หดตัวลง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอดีบีคาดว่า ยอดขาดดุลการเงินของจีนจะสูงขึ้นแตะระดับ 3% ในปีนี้ จากระดับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปีที่แล้วที่ 0.4% ซึ่งตัวเลขยอดขาดดุลดังกล่าวอาจจะเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2523 แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาดดุลในประเทศที่เหลือในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออก
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนได้รับการยอมรับว่าสามารถช่วยให้จีนสามารถคงระดับการขยายตัวต่อไปได้ทั้งที่ยอดการส่งออกจะทรุดฮวบลง โดยการขยายตัวของ GDP ในไตรมาสแรกของปีนี้ อยู่ในระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการเปิดเผยตัวเลข GDP ในไตรมาส 4 ของปี 2542 แต่อัตราการขยายตัวก็ปรับตัวขึ้นในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 7.9%
เอดีบีระบุว่า การใช้มาตรการทางการเงินประกอบไปด้วยจนทำให้แบงค์ปล่อยกู้ออกมาเป็นจำนวนมหาศาล มาตรการเหล่านี้บ่งชี้ว่า การขยายตัวที่สดใสของเศรษฐกิจจีนจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป อย่างน้อยที่สุดก็ในระยะใกล้นี้