สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอของสหรัฐที่ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาอาจฉุดดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ที่รวมถึงทองคำ ให้อ่อนแอลงด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดที่ 939.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 14.40 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 933.80-956.80 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 13.74 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 25.00 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.45 เซนต์ ปิดที่ 2.5205 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนต.ค.ปิดที่ 1,196.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 25.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนก.ย.ปิดที่ 260.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 3.95 ดอลลาร์
บลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำอย่างหนักหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และหลังจากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมิ.ย.ของสหรัฐดิ่งลงแตะระดับ 46.6 จุด จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 49.3 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 49 จุด
นอกจากนี้ ตลาดทองคำ COMEX ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องผลประกอบการของบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง บีพี โดยบีพีรายงานว่าผลกำไรไตรมาส 2 ดิ่งลง 53% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอยได้ฉุดดีมานด์เชื้อเพลิงหดตัวลงด้วย โดยกำไรสุทธิไตรมาส 2 ของบีพี อยู่ที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับ 9.36 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว