นายมูเนโนริ ยามาดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(เจโทร) ระบุปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองที่ยังมีความไม่มีความชัดเจนแน่นอนส่งผลให้นักธุรกิจญี่ปุ่นชะลอเข้ามาลงทุน
"ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในอนาคตและการดำเนินงานของธุรกิจนั้น 66% ระบุว่าปัจจัยสูงสุดคือ ความยืดเยื้อทางการเมือง" นายมูเนโนริ กล่าวขณะที่ปัจจัยรองลงมา คือ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการบริโภคของญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรป และไทย ตามด้วยความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและเงินบาทแข็งค่า ส่วนความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 นั้นขึ้นมาอยู่อันดับ 5 จากการสำรวจครั้งก่อนที่อันดับ 8
"ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้นักลงทุนญี่ปุ่นต้องเลื่อน ยกเลิกการเจรจาทางธุรกิจ และการประชุม ซึ่งเชื่อว่า ความกังวลนี้จะเพิ่มขึ้นอีกแน่นอนในการสำรวจครั้งต่อไป"นายมูเนโนริ กล่าวสำหรับผลสำรวจแนวโน้มทางเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยช่วงไตรมาสแรกปี 52 ระหว่างวันที่ 26 พ.ค.-26มิ.ย.52 จากตัวอย่าง 349 บริษัท เห็นว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 52(ม.ค.-มิ.ย.) สภาพธุรกิจยังแย่ลง และแย่ลงในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ยกเว้นกลุ่มอาหาร แต่ช่วงครึ่งหลังของปี 52(ก.ค.-ธ.ค.)คาดจะดีขึ้นแต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นจริง
"2% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสภาพธุรกิจของตนในครึ่งปีหลังจะดีขึ้น อีก 48% ระบุดีขึ้นเล็กน้อย ขณะที่อีก 50% ระบุว่าไม่เปลี่ยนแปลงและยังแย่ลง จึงสรุปไม่ได้ว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้นต่อเนื่อง และฟื้นตัวเท่าเดิมเหมือนปี 49-50 และประเมินว่าการส่งออกของไทยปีนี้จะติดลบเกิน 20%" นายมูเนโนริ กล่าว