ราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ร่วงลงอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงภาวะเงินฝืดที่อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เผชิญภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
สำนักงานสถิติเปิดเผยว่า ราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นซึ่งไม่รวมอาหารสดลดลง 1.7% จากปีก่อนหน้านี้ โดยดัชนีดังกล่าวตกลงอย่างต่อเนื่องจากที่ร่วงลง 1.1% ในเดือนพ.ค. และเป็นระดับที่ดิ่งหนักสุดนับตั้งแต่ปี 2514
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่า ราคาสินค้าจะลดลงอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า โดยคาดว่าราคาผู้บริโภคพื้นฐานจะร่วงหนักลงอีกในช่วงไตรมาส 3 และดิ่งลงกว่า 2% ซึ่งสัญญานบ่งชี้ดังกล่าวจะทำให้ธนาคารกลางต้องรักษาการใช้นโยบายตรึงอัตราดอกเบี้ยใกล้กับระดับ 0% ต่อไป
เซย์จิ อาดาชิ นักวิเคราะห์จากดอยช์ ซีเคียวริตี้ อิงค์ในโตเกียวกล่าวว่า "ยังเป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ถึงระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแรงพอที่จะช่วยพยุงราคาสินค้าผู้บริโภคของญี่ปุ่นให้สูงขึ้นได้ในเร็วๆนี้ และราคาสินค้าอาจเริ่มกลับมาสู่ช่วงขาลงไปจนถึงปีงบประมาณหน้า ดังนั้น จึงไม่มีทีท่าว่าอัตราดอกเบี้ยจะเปรับตัวพิ่มขึ้น"
นอกจากนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอีกฉบับหนึ่งระบุว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย.ไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 6 ปีที่ 5.4% ซึ่งใกล้กับระดับสูงสุดที่ 5.5% เมื่อเดือนเม.ย.2546 ขณะที่จำนวนตำแหน่งงานว่างร่วงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 0.43% แต่อัตราการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.2%
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08:50 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนเคลื่อนไหวที่ 95.61 ดอลลาร์/เยน จากระดับ 95.46 ดอลลาร์/เยน
ทั้งนี้ หลังจากที่บีโอเจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 0.1% ในเดือนธ.ค. ธนาคารได้เดินหน้าซื้อหุ้นกู้ระยะสั้นจากสถาบันปล่อยสินเชื่อ พร้อมแลกกับข้อเสนอปล่อยเงินกู้แบบไม่จำกัดวงเงิน ขณะที่นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจเห็นพ้องที่จะขยายโครงการสินเชื่อไปจนถึงสิ้นปีนี้