สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (7 ส.ค.) เนื่องจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่ดีเหนือความคาดหมายได้หนุนให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งเป็นการลดความน่าดึงดูดใจของทองคำ ขณะที่โลหะประเภทอื่นๆเดินหน้าขึ้น ด้วยเหตุที่นักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นจะทำให้ดีมานด์โลหะพื้นฐานเพิ่มสูง
สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 959.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.4% หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 955.50 - 968 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 14.668 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้น 2.3 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.บวก 3.35 เซนต์ ปิดที่ 2.7855 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1268.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 279.05 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 7.95 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) ลดลง 247,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากที่ร่วงลงถึง 443,000 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงแตะระดับ 9.4% จากระดับ 9.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน สวนทางกับการคาดการณ์ว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 9.6% และนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะมีแรงงานถูกเลย์ออฟ 320,000 ในเดือนก.ค.
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ข้อมูลภาคแรงงานที่คึกคักนี้ถือเป็นสัญญาณที่เด่นชัดของการเริ่มต้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้
ด้วยอานิสงส์ของรายงานตัวเลขจ้างงาน ส่งผลให้นักลงทุนซึ่งเทขายดอลลาร์ในระยะที่ผ่านมา แห่เข้าซื้อดอลลาร์แทน เพราะเชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวได้เร็วกว่าประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่อื่นๆ
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร โดยพุ่งกว่า 2 เซนต์ แตะ 1.4193 ดอลลาร์ จากระดับต่ำในระหว่างวันที่ 1.4413 ดอลลาร์ U.S. Dollar Index ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ 6 สกุลเงินหลักของโลก บวกขึ้น 0.931 จุด หรือ 1.2% แตะ 78.876 จุด
ทั้งนี้ มุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ล้วนเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับทองคำ เนื่องจากความน่าดึงดูดใจของโลหะมีค่าในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยสำหรับเก็งกำไรในสายตานักลงทุนได้ถูกลดทอนลง