เงินเยนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินยูโรหลังจากที่รัฐบาลเปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ผ่านมาขยายตัวดีขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากการดีดตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกซึ่งช่วยหนุนให้ญี่ปุ่นหลุดพ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลก
นอกจากนี้ เงินเยนยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินขานรับรายงานการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปีจากการดีดตัวของภาคการส่งออกและการใช้จ่ายผู้บริโภค ขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนเป็นวันที่ 2 หลังตลาดหุ้นเอเชียร่วงลง ซึ่งบั่นทอนให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:09 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 133.90 ต่อยูโรจากระดับ 134.84 ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าลงแตะ 1.4157 ดอลลาร์/ยูโรจากระดับ 1.4203 ดอลลาร์/ยูโร และเงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ 94.61 ต่อดอลลลาร์ จากระดับ 94.94 ต่อดอลลาร์
"การขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศช่วยกระตุ้นเงินเยนให้แข็งค่า แม้ว่าอัตราการเติบโตจะเป็นไปอย่างช้าๆก็ตาม" ฌอน คาลโลว์ นักวิเคราะห์จากเวสแพค แบงกิ้ง คอร์ปในซิดนีย์กล่าว "เศรษฐกิจในประเทศที่ออกมาในแง่บวกช่วยสร้างปัจจัยหนุนต่อเงินเยน"
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific ตลาดหุ้นเอเชียลดลง 0.9% หลังจากที่พุ่งขึ้น 2 วัน
ด้านดานิก้า แฮมป์ตัน นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ นิวซีแลนด์กล่าวว่า "นักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงและหันไปช้อนซื้อสกุลเงินเยนที่ปลอดความเสี่ยงแทน"
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ขยายตัวในอัตรา 3.7% ต่อปี หรือ 0.9% ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาส หลังจากที่ดิ่งลง 14.2% ในไตรมาสแรก