สำนักงานผู้ตรวจการสหรัฐ (U.S. Marshals Service) อนุญาตให้ตัวแทนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมประมูลอสังหาริมทรัพย์ 3 แห่งของนายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้นนาสแดค ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก 150 ปี จากคดีโกงแชร์ลูกโซ่ครั้งประวัติศาสตร์ของโลก
อสังหาริมทรัพย์ของมาดอฟฟ์ทั้ง 3 แห่งอยู่ในนิวยอร์กซิตี้, เมืองมอนทอค ทางฝั่งตะวันออกของลองไอส์แลน์ และที่ปาล์มบีช ทางตอนใต้ของรัฐฟลอริด้า คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 20 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สำนักงานผู้ตรวจการสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางสำนักงานนำอสังหาริมทรัพย์ของมาดอฟฟ์ออกมาขายทอดตลาดเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดเพื่อพิทักษ์ประโยชน์ของนักลงทุนจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อการฉ้อโกงของมาดอฟฟ์ นอกจากนี้ สำนักงานผู้ตรวจการสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับบริษัท แอลพีเอส แอสเส็ท เมเนจเมนท์ โซลูชันส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทรับเหมาของรัฐที่ทำหน้าที่บริหารจัดการสินทรัพย์ที่ถูกยึดโดยหน่วยงานของรัฐ ให้ช่วยดำเนินการเรื่องการขายอสังหาริมทรัพย์ของมาดอฟฟ์ด้วย
มาดอฟฟ์ถูกเจ้าหน้าที่ FBI บุกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ปีที่แล้ว ในข้อหาจัดตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ในรูปแบบของ แชร์ลูกโซ่ (ponzi scheme) ซึ่งเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ส่งผลให้สถาบันการเงินหลายแห่งทั่วโลก อีกทั้งกองทุน นักลงทุนผู้มั่งคั่งและผู้มีชื่อเสียง สูญเงินไปกับการหลอกลวงในครั้งนี้จำนวนมาก โดยสถาบันการเงินและบริษัทรายใหญ่ที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้ รวมถึง ธนาคาร HSBC, ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ และโนมูระ โฮลดิ้งส์
นอกจากนี้ การกระทำของมาดอฟฟ์ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความน่าเชื่อถือของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าบกพร่องในเรื่องการตรวจสอบกองทุนของนายมาดอฟฟ์ จนในที่สุดนายคริสโตเฟอร์ ค็อกซ์ ประธาน SEC ตัดสินใจกู้วิกฤตศรัทธาของ SEC ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ซีเอ็นเอ็นรายงาน