น.พ.อนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย ปรับประมาณการปี 52 ใหม่ โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกใกล้เคียงกับปีก่อนที่มี 3.7-3.8 แสนตัน จากเดิมที่เคยคาดว่าจะลดลง 7-9% หลังจากช่วงครึ่งปีแรกมียอดส่งออกดีขึ้นกว่าคาด ส่วนในแง่ของมูลค่าการส่งออกทั้งปีนี้ ปรับเพิ่มเป็๋น 5หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดไว้ 4 -4.5 หมื่นล้านบาท แต่ก็ยังต่ำกว่าปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 5.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาขายลดลง
"ราคาขายที่ลดลงเพราะสต็อกในต่างประเทศยังมีอยู่ และเศรษฐกิจไม่ดี กำลั้งซื้อก็หายไป แต่ครึ่งปีหลังดูแล้วจะดีขึ้น โดยในไตรมาส 3 จะมีการส่งออกเยอะ และค่อยๆชะลอในไตรมาส 4" นพ.อนันต์ กล่าว
นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวว่า แนวโน้มสหภาพยุโรปกีดกันการค้ายังมีอยู่ โดยก่อนหน้าเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าสัตว์ปีก 8 รายการ แม้ว่าไทยจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบมากนัก แต่ก็ยังต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับมาตรการที่กระมปศุสัตว์มีโครงการพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับ และระบบการบริการ e-Service สำหรับสินค้าเนื้อสัตว์ปีก ถือว่าเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิตและส่งออกเนื้อสัตว์ปีกของไทยอย่างมาก เพราะจะช่วยให้ผู้บริโภคต่างประเทศและในประเทศมีความเชื่อมั่นในสินค้าเนื้อไก่และเนื้อเป็ดของไทยมากยิ่งขึ้น
ด้าน นสพ.ยุคล ลิ้มแหลมทอง อธิบดีปศุสัตว์ กล่าววา ปัจจุบันการผลิตไก่เนื้อเพื่อการส่งออกมีการแข่งขันในต่างประเทศสูงมาก มีการใช้มาตรการในการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช้ระบบภาษี โดยการกำหนดคุณภาพสินค้าเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมทั้งต้องมีการผลิตและตรวจสอบสินค้าอาหาร ให้มีความปลอดภัยในการกระบวนการผลิต ตลอดห่วงโซ่อาหาร (Food Chain)
ดังนั้น ระบบตรวจสอบย้อนกลับจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งในการช่วยตรวจสอบติดตามหรือตรวจสอบย้อนกลับคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ โดยเริ่มตั้งแต่การเลี้ยง การให้อาหาร กระบวนการผลิต กระบวนการจัดเก็บ การแปรรูป จนถึงการส่งต่อไปยังผู้บริโภค สามารถสืบค้นย้อนกลับถึงต้นเหตุของปัญหาสามารถเรียกกลับสินค้าเฉพาะมีปัญหาทั่งหมดได้อย่างรวดเร็วขึ้น เป็นการสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยอาหารแก่ผู้บริโภค