ศาสตราจารย์นูเรียล รูบินี จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กซึ่งเคยทำนายว่าจะเกิดวิกฤตการเงินโลก กล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยอีกครั้งมีมากขึ้นหากหลายประเทศเลิกใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมาตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน
ศ.รูบินีกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐ อังกฤษ และยุโรปบางประเทศจะไม่สิ้นสุดอย่างเป็นทางการจนกว่าจะหมดปีนี้ ในขณะที่เศรษฐกิจบางประเทศอย่างจีน ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม ศ.รูบินีเตือนว่า เศรษฐกิจบางประเทศอาจกลับมาถดถอยอีกหากคณะกรรมการกำหนดนโยบายประเมินสถานการณ์ต่ำไปด้วยการเร่งขึ้นภาษี ลดการใช้จ่าย และจัดการกับสภาพคล่องในตลาดที่มีมากไปเพื่อลดการขาดดุล
ส่วนประเทศที่ยังมีตัวเลขขาดดุลงบประมาณมหาศาลจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอัตราเงินเฟ้อและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูง ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจถดถอยอีกครั้งในที่สุด
นอกจากนั้น ศจ.รูบินียังกล่าวว่า ราคาพลังงานและอาหารที่พุ่งสูงยังเป็นอีกปัจจัยที่อาจทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง พร้อมเตือนว่าทั่วโลกคงรับไม่ได้หากการเก็งกำไรทำให้ราคาน้ำมันพุ่งแตะ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน