เงินเยนแข็งค่าขึ้นเป็นวันที่ 2 เมื่อเทียบกับเงินยูโรท่ามกลางความกังวลว่า ภาวะขาดทุนในภาคธุรกิจการเงินจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวได้ช้า ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงมากขึ้น
เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินที่ทำการซื้อขายในตลาดหลังจากที่ปีเตอร์ ออร์สแซก ประธานสำนักงานงบประมาณของทำเนียบขาวกล่าวว่า อัตราว่างงานของสหรัฐจะพุ่งทะยานแตะที่ 10% ในปีนี้
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 09:16 น.ตามเวลาโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 134.41 ต่อยูโรจากระดับ 134.65 ต่อยูโรที่ตลาดนิวยอร์กวานนี้ ขณะที่เงินเยนเทรดกันที่ระดับ 94.08 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 94.18 ต่อดอลลาร์ ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ระดับ 1.4289 ต่อยูโรจากระดับ 1.4296 ต่อยูโร
ยูจิ ไซโต้ นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราล เอสเอ (ซอคเจน) กล่าวว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงไม่น่าไว้วางใจ ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วยการหันไปซื้อสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินเยนและดอลลาร์สหรัฐ"
กระทรวงคลังญี่ปุ่นเผยว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นดิ่งลงอย่างหนักในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นซึ่งบ่งชี้ถึงการหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาสที่ผ่านมาอาจเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ โดยยอดส่งออกเดือนก.ค.ลดลง 36.5% จากปีก่อนหน้านี้ ซึ่งรุนแรงกว่าที่ลดลง 35.7% ในเดือนมิ.ย.