ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือนส.ค.มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ซึ่งบ่งชี้ว่าเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรปจะเริ่มแข็งแกร่งขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
ผลสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ที่จัดทำโดยบลูมเบิร์กระบุว่า สถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 89 จุด จากระดับ 87.3 จุดในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2551 โดยดัชนีพุ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีที่ 82.2 จุดในเดือนมี.ค.
โดยผู้บริหารภาคเอกชนประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบันและคาดว่าสถานการณ์ต่างๆจะเริ่มดีขึ้นในอนาคต โดยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในเดือนนี้ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อวานนี้
เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัวได้ดีเกินคาด 0.3% ในไตรมาส 2 เนื่องจากการค้าโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นอุปสงค์การส่งออกและมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยแอ็กเซล เวเบอร์ ประธานธนาคาร Bundesbank กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า แม้เขายังไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างยั่งยืน แต่ก็เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3 อาจขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราล์ฟ โซลวีน หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจจากคอมเมิร์ซแบงก์ เอจีในแฟรงเฟิร์ตกล่าวว่า "เศรษฐกิจจะดีดตัวได้อย่างแข็งแกร่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากปัจจัยหนุนของการส่งออก อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ในช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 แต่อัตราการผลิตคงไม่กลับไปเป็นเหมือนเมื่อต้นปี 2551"
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจราว 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.22 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งรวมถึงนโยบายลดหย่อนภาษีและจ่ายเงิน 2,500 ยูโรให้แก่ผู้บริโภค รวมถึงการออกนโยบายช่วยเหลือผู้ซื้อรถใหม่ ขณะที่ทางกระทรวงเศรษฐกิจระบุว่า การคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่หดตัว 6% ในปีนี้ดูจะเป็นการมองโลกในแง่ลบมากเกินไป
สถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในวันนี้เวลา 10:00 น.ตามเวลาท้องถิ่น