อัตราการใช้จ่ายภาคเอกชนของออสเตรเลียพุ่งสูงเกินคาดในไตรมาส 2 ซึ่งตอกย้ำถึงสัญญาณบ่งชี้ด้านการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งในเร็วๆนี้
สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า อัตราการใช้จ่ายเงินทุนของออสเตรเลียในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 3.3% จากไตรมาสแรกที่ดิ่งลง 7.3% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะลดลง 5%
อัตราการลงทุนที่พุ่งสูงขึ้นยังช่วยตอกย้ำมุมมองของนายเกลน สตีเว่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียที่ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวจากภาวะถดถอย ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ รัฐบาลได้อนุมัติโครงการร่วมทุนด้านการผลิตก๊าซธรรมชาติเหลวของบริษัทเชฟรอน คอร์ป มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (4.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะผลักดันให้ออสเตรเลียก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตก๊าซ LNG รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากกาตาร์
"ดูเหมือนว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่มีการขยายตัวไปอีกขั้น" ซู-หลิง ออง นักวิเคราะห์จากอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เกตส์ในซิดนีย์กล่าว "โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีการขยายตัวแซงหน้าประเทศที่พัฒนาแล้วไปมาก"ทั้งนี้ การใช้จ่ายด้านโรงงานและเครื่องมือเครื่องจักรเพิ่มขึ้น 5.3% ในไตรมาส 2 ขณะที่การลงทุนในธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างขยายตัว 0.7% โดยการลงทุนในกลุ่มผู้ประกอบการภาคการผลิตเพิ่มขึ้น 4.6% แต่การลงทุนในกลุ่มผู้ประกอบการเหมืองลดลง 6.3%
ภาคเอกชนคาดว่าเม็ดเงินลงทุนในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2553 จะอยู่ที่ 9.06 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเพิ่มขึ้น 15.4% จากที่พวกเขาคาดการณ์ไว้ในช่วง 3 เดือนก่อนหน้านี้ แต่ต่ำกว่า 10.4% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อปีที่แล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 12:08 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 82.62 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 82.46 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลียก่อนที่รัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะ 2 ปีเพิ่มขึ้นเป็น 4.34%