สศค.เชื่อเศรษฐกิจ Q3/52 อาจติดลบ 2-3% แต่ใน Q4/52 อาจเป็นบวกได้ 2-3%

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 27, 2009 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) คาดว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 3/52 จะมีอัตราการติดลบน้อยลงเหลือ 2-3% ส่วนในไตรมาส 4/52 น่าจะพลิกกลับมาเป็นบวกได้เล็กน้อยที่ 2-3% ซึ่งขณะนี้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่ยังมีความเปราะบางทางเศรษฐกิจ

โดยเศรษฐกิจไทยตั้งแต่มิ.ย.-ก.ค.เริ่มผงกหัวขึ้นและมีโมเมนตัมที่ดีขึ้น จะเห็นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)ประกาศอย่างเป็นทางการพบว่าติดลบน้อยลงจากไตรมาสแรกมาเหลือที่ -4.9% ซึ่งเป็นไปตามที่ สศค.คาดการณ์ไว้ และจากตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่เป็นไปตามที่เคยคาดการณ์ไว้ทั้งการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน แม้จะหดตัวแต่ความรุนแรงของการหดตัวน้อยลง ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3/52 น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2/52 โดยคาดว่าจะหดตัว 2-3%

ขณะที่กระทรวงการคลัง เตรียมปรับประมาณการจีดีพีของปี 52 อีกครั้งในเดือนก.ย.ซึ่งคาดว่า จะปรับตัวดีขึ้นจากประมาณการเดิม

ผู้อำนวยการ สศค. กล่าวว่า การเบิกจ่ายเงินของภาครัฐ ยังเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามยังมีความเป็นห่วงการนำเข้าที่ยังหดตัวมากเกินไปซึ่งเป็นสัญญาณไม่ดีว่าอาจจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างไม่ยั่งยืน เป็นจุดเปราะบางของเศรษฐกิจไทยที่อาจจะทำให้เศรษฐกิจที่คาดว่าจะโตแบบ V เชฟ อาจเป็น W เชฟได้ นอกจากนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในภาคการผลิต แม้ขณะนี้จะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังมีเหตุที่ผิดปกติที่จะต้องจับตาเช่นกัน

"หากการนำเข้ายังหดตัวอย่างรุนแรง แม้ตอนนี้จะหดตัวลดลงก็ตาม ดังนั้นจะต้องเร่งพยายามดูแลการนำเข้าอย่างใกล้ชิด ส่วนภาคการคลังยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ต้องเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" นายสมชัย กล่าว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ ราคาน้ำมัน ซึ่งหากไม่ปรับสูงมากเกินไปก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อโมเมนตันของเศรษฐกิจ ขณะนี้ค่าเงินบาทเห็นว่า ธปท.มีการปรับตัวดูแลเงินบาทได้ดีขึ้นไม่ให้แข็งค่าหรืออ่อนค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบการปรับกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อในปี 52 ใหม่ จากเดิม 0-3.5% เป็น 0.5-3% โดยกรอบล่างที่ปรับสูงขึ้นจากเป้าหมายเดิมเนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้

ทั้งนี้จากการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้หารือถึงอัตราเงินเฟ้อที่ติดลบหลุดจากกรอบเป้าหมายเดิมที่กำหนดไว้ แต่ยังมั่นใจว่าเงินเฟ้อที่ติดลบยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด และกรรมการธปท.เห็นว่าภายในสิ้นปี 52 เงินเฟ้อจะยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้

"ตอนนี้เงินเฟ้อพื้นฐานหลุดจากกรอบมา 1-2 เดือนแล้ว โดยตอนนี้ติดลบ 0.1% แต่ยังไม่ถือว่าเป็นภาวะเงินฝืด ที่ประชุมฯเชื่อว่าสิ้นปีนี้น่าจะยังอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ...เงินเฟ้อที่ปรับลดลงมาจากอุปทานไม่ใช่อุปสงค์" นายสมชัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ