รมว.พลังงาน คาดวิกฤติการณ์ด้านราคาน้ำมันอาจกลับมาอีกหลัง ศก.โลกฟื้นตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 27, 2009 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.พลังงาน คาดอาจเกิดวิกฤติการณ์ราคาน้ำมันอีกครั้งหลังเศรษฐกิจโลกฟื้น ด้านสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) ระบุปี 2554 ไทยต้องซื้อก๊าซธรรมชาติป้อนโรงไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด ขณะที่ กฟผ.ชี้ยอดใช้ไฟฟ้าเดือน ส.ค.ปรับสูงกว่าปีก่อนเป็นครั้งแรก คาดเดือน ก.ย.สูงขึ้นต่อเนื่องสะท้อนเศรษฐกิจไทยโตชัดเจน

"โอกาสที่จะเห็นราคาน้ำมันตลาดโลกต่ำกว่าระดับ 30-40 ดอลลาร์/บาร์เรล เหมือนเช่นปีที่ผ่านมาคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกดีดตัวสูงขึ้น และอาจเกิดวิกฤติราคาน้ำมันแพงอีกครั้ง ขณะที่ปริมาณสำรองพลังงานของโลกเริ่มลดลง" นพ.วรรณรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้คาดว่า ปริมาณสำรองน้ำมันของโลกจะเหลือใช้ได้อีก 30-40 ปีข้างหน้า ขณะที่ก๊าซธรรมชาติจะเหลือใช้ได้อีก 60-70 ปี และถ่านหินเหลือใช้ได้อีก 147 ปี ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิง โดยตามแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้า(พีดีพี 2007) ระยะ 15 ปี จะผลักดันการใช้พลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นให้ได้ 20% ภายในปี 2565 จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.4%

ส่วนแผนยกเลิกจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล บี2 แล้วหันไปใช้ไบโอดีเซล บี5 ทดแทนนั้น รมว.พลังงาน ยืนยันว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานยังไม่มีแผนยกเลิกจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล บี 2 เนื่องจากวัตถุดิบมีไม่เพียงพอต่อการผลิต บี5 แต่คาดว่าจะยกเลิกจำหน่าย บี2 ได้ตามเป้าหมายในปี 2554

ขณะที่นายวีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการ สนพ. กล่าวว่า ตามแผนพีดีพี 2007 จะใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าเป็นสัดส่วนที่สูงมาก ขณะที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเพียงแค่ 20% จากเชื้อเพลิงทั้งหมด ทำให้ไทยมีความเสี่ยงด้านพลังงานมาก ทั้งนี้เห็นว่าในอนาคตความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติจะสูงขึ้นอีก และทำให้โรงไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นใหม่หลังปี 2554 จะต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศ ขณะที่ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีเพียงพอแค่ป้อนให้กับโรงไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้นในอีก 30-50 ปีข้างหน้าไทยคงหลีกเลี่ยงพลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ได้ลำบาก

สำหรับการส่งเสริมพลังงานทดแทนนั้น กระทรวงพลังงานจะส่งเสริมสัดส่วนการใช้ไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันใช้ไบโอดีเซลสูงสุดเพียงบี 5 เท่านั้น และมีเป้าหมายบังคับใช้ในปี 2555 ซึ่งในระยะยาวจะต้องศึกษาการผลิตและใช้ไบโอดีเซลบี 10 ต่อไป ส่วนการใช้แก๊สโซฮอล์ในปัจจุบันเห็นว่ายังมีการใช้น้อยเพียง 1.2 ล้านลิตร/วัน จากเป้าหมายอีก 15 ปี เป็น 9 ล้านลิตร/วัน หรือทดแทนการใช้น้ำมันเบนซินได้ 10% อย่างไรก็ตามเห็นว่าการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ในประเทศยังใช้น้อยมาก ซึ่งต้องส่งเสริมให้มอเตอร์ไซด์ 4 จังหวะหันมาใช้ให้ได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ยอดการใช้แก๊สโซฮอล์เพิ่มขึ้นจาก 1.2 ล้านลิตร/วันเพิ่มเป็น 1.3-1.4 ล้านลิตร/วัน

นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานมีเป้าหมายลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศลงจากปัจจุบันเฉลี่ยใช้น้ำมันอยู่ 39.06% โดยจะต้องลดลงให้เท่ากับค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันของโลกที่ 35.8% ต่อไป

ด้านนายสหัส ประทักษ์นุกูล รองผู้ว่าการนโยบายและแผน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า ยอดการใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยในเดือน ส.ค.นี้ปรับสูงกว่าปี 2551 เป็นครั้งแรก โดยมียอดการใช้สูงกว่าปีก่อน 2% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงทิศทางเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มดีขึ้น และหากเดือน ก.ย.นี้มียอดการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นอีกแสดงว่าภาคอุตสาหกรรมไทยฟื้นตัวเริ่มใช้ไฟฟ้าเดินเครื่องผลิตสินค้ามากขึ้นและเป็นการชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของไทยจะกลับมาเติบโตได้ในปลายปีนี้



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ