ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมันประจำเดือนตุลาคมปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ช่วยเพิ่มความคาดหวังเรื่องรายได้และความเต็มใจในการจับจ่ายซื้อสินค้าของชาวเยอรมัน
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสำหรับเดือนต.ค. ซึ่งจัดทำโดยบริษัทวิจัย Gfk AG จากการสัมภาษณ์ผู้บริโภคประมาณ 2,000 ราย พุ่งขึ้นแตะ 4.3 จุด จากระดับ 3.8 ในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551
เศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้อย่างเหนือความคาดหมายในไตรมาสสอง เนื่องจากมาตรการต่างๆของรัฐบาล อาทิ การให้เงินอุดหนุนเพื่อจูงใจให้ประชาชนนำรถเก่าไปแลกซื้อรถใหม่ ได้ช่วยกระตุ้นการบริโภคให้ปรับตัวขึ้น
รายงานระบุว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ทยอยเผยแพร่กันออกมามากขึ้นแสดงให้เห็นว่า ช่วงขาลงของเศรษฐกิจเยอรมนีมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ส่งผลให้มุมมองต่อเศรษฐกิจในเชิงลบเริ่มกลับกลายเป็นบวกมากขึ้น เห็นได้จากการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจที่โตขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และเป็นการกลับสู่แดนบวกได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว โดยกระโดดขึ้นมาอยู่ที่ 3.4 จาก - 7.5 ขณะที่ความคาดหวังเรื่องรายได้ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16 จาก 8.8 และดัชนีความโน้มเอียงของผู้บริโภคต่อการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 36.5 จาก 31.1
GfK ระบุว่า นอกจากนี้ เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำก็กำลังช่วยหนุนให้ผู้บริโภคมีมุมมองในแง่บวกมากขึ้น และสามารถบดบังความกังวลเรื่องการตกงานไปได้ในระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ ราคาผู้บริโภคของเยอรมนีปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนส.ค. โดยลดลง 0.1% จากปีก่อน ขณะที่ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่า อัตราว่างงานจะพุ่งแตะ 10.5% ในปีหน้า จากระดับ 8.3% ในปัจจุบัน ซึ่งอาจฉุดรั้งให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลงอีก
"แนวโน้มขาขึ้นของเศรษฐกิจจะยั่งยืนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดแรงงาน เพราะการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราว่างงานย่อมบั่นทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคอย่างแน่นอน" Gfk กล่าวในแถลงการณ์