การประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ที่เมืองพิตส์เบิร์ก สหรัฐอเมริกา ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยที่ประชุมได้กำหนดกรอบการทำงานด้านมาตรการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ควบคู่ไปกับการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบที่จะเปิดทางให้จีนและประเทศอื่นๆในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เข้ามามีบทบาทในการออกเสียงบนเวทีโลกมากขึ้น
ที่ประชุม G20 เห็นชอบให้สหรัฐลดการพึ่งพาเงินทุนต่างประเทศในการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค อีกทั้งลดการพึ่งพาการส่งออกสินค้าไปยังจีนและประเทศอื่นๆ ทั้งนี้ เพื่อให้แผนการดังกล่าวบรรลุผล ที่ประชุม G20 เห็นชอบให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลายๆเรื่อง รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ IMF นั้นจะมีการเปิดเผยในการประชุมประจำปีของ IMF และธนาคารโลกที่เมืองอิสตัลบลูสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน ที่ประชุม G20 มองว่าการที่เศรษฐกิจโลกฟื้นที่ขึ้นในช่วงที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ฟื้นตัวจากปัจจัยพื้นฐาน แต่เป็นเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม G20 ให้คำมั่นสัญญาว่าจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง พร้อมกับเตือนว่าการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนเวลาอันควรอาจทำให้กระบวนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะงักงัน
ส่วนในเรื่องการป้องกันวิกฤตเศรษฐกิจไม่ให้เกิดขึ้นอีกนั้น ที่ประชุม G20 เห็นชอบให้มีการกำหนดข้อบังคับด้านการเงินที่เข้มงวดขึ้น เพื่อลดความเสี่ยง พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะร่วมมือกันมากขึ้นในด้านนโยบาย
ประเด็นสำคัญในการประชุม G20 ครอบคลุมถึงข้อเสนอของสหรัฐที่ต้องการให้ประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่เข้าไปมีสิทธิออกเสียงในธนาคารโลกเพิ่มขึ้นอีก 3% ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมถึงจีนจะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ และสถาบันระดับโลกแห่งอื่นๆ ในฐานะประเทศที่มีอิทธิพลต่อการขยายตัวของโลก
นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่เมืองพิตส์เบิร์กในวันนี้ว่า "การสนับสนุนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ให้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟ ถือเป็นสิ่งที่ควรทำและควรผลักดันให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป"
นอกจากนี้ ไกธ์เนอร์กล่าวว่า เสียงส่วนใหญ่ของผู้นำกลุ่ม G20 ยังคงสนับสนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นสกุลเงินหลักในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของโลก นอกจากนี้ ผู้นำกลุ่ม G20 ยังสนับสนุนให้ชาติสมาชิกลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมส่งออก
โดยไกธ์เนอร์กล่าวว่า สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสหรัฐอเมริกา ขณะเดียวกันเขาเชื่อว่ากลุ่มผู้นำ G20 จะเห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะทำงานบารัค โอบามา ที่สนับสนุนให้ชาติสมาชิก G20 ลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมส่งออกและหันมากระตุ้นอัตราการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ เพื่อให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างสมดุล นอกจากนี้ อัตราการออมในสหรัฐที่สูงขึ้นในปีนี้ถือเป็น "สัญญาณเชิงบวก" ที่บ่งบอกว่ารัฐบาลสามารถลดการแทรกแซงตลาดได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นอกจากนี้ ที่ประชุม G20 ให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับดุลการค้าและการลงทุนให้สมดุล เพราะในช่วงที่ผ่านมาภาวะไร้สมดุลด้านการค้าและการลงทุนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจโลก