นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงภาคเอกชน ที่อาจมีการย้ายฐานการผลิตออกจากพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด หลังจากศาลปกครอง มีคำสั่งให้ระงับโครงการลงทุน 76 โครงการ ดังนั้นรัฐบาลต้องพยายามเร่งสร้างความเข้าใจกับภาคเอกชน และสิ่งสำคัญต้องการให้ศาลปกครอง เร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว หลังได้มีการยื่นอุทธรณ์ไปแล้ว เพื่อกำหนดเป็นแนวปฏิบัติต่างๆต่อไปได้
"ยอมรับว่าเป็นห่วง เราพยายามทำความเข้าใจกับภาคเอกชน ซึ่งรัฐบาลจะดูแลให้ชัดเจนมากที่สุด...ใจผมอยากให้ศาลเร่งพิจารณาออกมา เพราะเมื่อวินิจฉัยมาแล้ว รัฐบาลจะได้มีแผน มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนต่อไป"นายกรัฐมนตรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า คำสั่งของศาลที่ให้ระงับ 76 โครงการลงทุนในมาบตามพุด ไม่ได้ทำให้เม็ดเงินลงทุนหายไปถึง 4 แสนล้านบาท ตามที่หลายฝ่ายมีความกังวล
ส่วนข้อเสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรอิสระ ขึ้นมาดูแลการลงทุนในนิมคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดนั้น ยอมรับว่า ที่ผานมา ยังมีปัญหาถกเถียง และมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ และรัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น และเร่งรัดเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยยืนยันว่าต้องการให้ดำเนินการหลังผ่านการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการ วาระที่ 1 เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้ต้องกลับมาแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ และรัฐบาลดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 6 ประเด็น
"การถามประชาชนควรแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ จะทำให้ไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ แต่การกำหนดประเด็นแก้ไขใน 6 ประเด็น ถือว่ามีความชัดเจนที่สุดแล้ว และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ" นายกรัฐมนตรี กล่าว