อุตสาหกรรมการผลิตและบริการในยุโรปปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ในเดือนก.ย. นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบ 60 ปี โดย Markit Economics รายงานว่า ดัชนีในภาคอุตสาหกรรมทั้ง 2 ประเภทปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 51.1 จุด จากระดับ 50.4 จุดในเดือนส.ค. และยังเป็นสถิติที่สูงกว่าการประเมินเบื้องต้นที่ 50.8 จุด
ตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว และตัวเลขดังกล่าวก็อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาเป็นเวลา 14 เดือน ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นมาแตะระดับ 50 จุดได้เมื่อเดือนส.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 50.9 ในเดือนก.ย.
เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโรหดตัวลงเพียงเล็กน้อยในไตรมาส 2 เนื่องจากเยอรมนีและฝรั่งเศสซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคได้กลับมาขยายตัวขึ้นแล้ว โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 0.3% ในปีหน้า และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้จากเดิมที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค.ที่ -4.8% เป็น -4.2%
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม G-7 ระบุในแถลงการณ์ว่า แม้มีสัญญาณบ่งบอกการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่เศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางและตลาดแรงงานก็ยังไม่ปรับตัวขึ้น โดยอัตราว่างงานในยูโรโซนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 9.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปี และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว IMF ได้คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานยูโรโซนจะขยายตัวแตะ 11.7% ในปีหน้า ซึ่งสูงกว่าในสหรัฐหรืออังกฤษ