นักเศรษฐศาสตร์คาดยอดขาดดุลการค้าสหรัฐขยายตัวอีก หลังยอดนำเข้าโตแซงหน้ายอดส่งออก

ข่าวต่างประเทศ Friday October 9, 2009 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขาดดุลการค้าสหรัฐอาจขยายตัวมากขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนสิงหาคม หลังยอดนำเข้ายังโตแซงหน้ายอดส่งออก

ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ 76 รายโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ช่องว่างทางการค้าจะขยายตัวแตะ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่ากว้างสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม จากระดับ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนกรกฎาคม

ปัจจัยหลักที่ทำให้สหรัฐต้องนำเข้าสินค้าเป็นจำนวนมากคือ ยอดผลิตสินค้าที่เพิ่มขึ้น การต้องซื้อสินค้ามาเพิ่มในสต็อก และราคาน้ำมันที่พุ่งสูง โดยราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 71.14 ดอลลาร์/บาร์เรลในเดือนสิงหาคม หรือเพิ่มขึ้นถึง 11% จากราคาเฉลี่ยในเดือนกรกฎาคมที่ 64.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเมื่อวานนี้อยู่ที่ 71.69 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนั้นยอดนำเข้ายังพุ่งสูงเพราะการใช้จ่ายผู้บริโภครายเดือนที่ขยายตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2544 ด้วย

ขณะเดียวกันยอดส่งออกของสหรัฐก็เพิ่มขึ้นหลังรัฐบาลทุ่มงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์

"ยอดนำเข้าและส่งออกต่างดีดตัวขึ้นทั้งคู่ ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวแล้ว" สก็อตต์ บราวน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท เรย์มอนด์ เจมส์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ อิงค์ ในปีเตอร์สเบิร์ก ฟลอริด้า กล่าว

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์จะรายงานตัวเลขขาดดุลการค้าอย่างเป็นทางการในเวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขขาดดุลน่าจะอยู่ที่ราว 2.9 - 3.53 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ