ยูนิตี้ มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยชื่อดังของสหรัฐคาดการณ์ว่า บริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเม็กซ์) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่สุดของสหรัฐ จะมีผลกำไรไตรมาส 3 พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากอัตราการผิดนัดชำระหนี้ปรับตัวลดลง และมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่ากลุ่มผู้บริโภคที่ร่ำรวยมีการใช้จ่ายมากขึ้นในไตรมาส 3
รายงานของยูนิตี้ มาร์เก็ตติ้งระบุว่า ตลาดสินค้าและบริการที่หรูหราซึ่งเป็นฐานตลาดหลักของเอเม็กซ์นั้น มียอดการใช้จ่ายซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยและการบริการพุ่งขึ้น 29% ในไตรมาส 3 และคาดว่ายอดขายผลิตภัณฑ์สินค้าฟุ่มเฟือยจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า
เอเม็กซ์ซึ่งมีกำหนดจะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3 หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพรุ่งนี้ มีตัวเลขขาดทุนติดต่อกัน 5 เดือนแล้ว เนื่องจากตัวเลขเงินกู้หนี้สูญที่พุ่งขึ้น แต่เมื่อตัวเลขการใช้จ่ายของกลุ่มผู้บริโภคที่ร่ำรวยปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้เอฟบีอาร์ แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเอเม็กซ์ขึ้นสู่ระดับ “market perform" จากระดับ “underperform" และปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเอเม็กซ์ในระยะ 12 เดือนขึ้นเป็น 37 ดอลลาร์ จากเดิม 25 ดอลลาร์
"ที่ผ่านมา เอเม็กซ์มีการบริหารจัดการที่ดีและกระตุ้นธุรกิจในองค์กรจนสามารถฟื้นตัวรวดเร็วกว่าบริษัทคู่แข่ง จนทำให้หุ้นเอเม็กซ์ติดทำเนียบหุ้น "top performer" ในตลาดหุ้นนิวยอร์กปีนี้ สก็อต วาเลนติ นักวิเคราะห์ของเอฟบีอาร์กล่าว
เอเม็กซ์ได้ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและงานส่งเสริมการขายช่วงไตรมาส 2 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นผลกำไรของบริษัท โดยเอเม็กซ์ลดค่าใช้จ่ายในแผนกดังกล่าวลง 47% จากปีที่แล้วเป็นเงิน 311 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 74% ของผลกำไรก่อนหักภาษีที่ 418 ล้านดอลลาร์ บลูมเบิร์กรายงาน